GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Watch dogs Legion"
Watch Dogs: Legion Online ระบบ Cross-Play ยังไม่ถูกอัปเดตในวันที่ 23 มีนา
หลังจากพบปัญหาในโหมด Online ของ Watch Dogs: Legion ทางผู้พัฒนาได้ตัดสินใจเลื่อนวันอัปเดตบนเครื่อง PC ออกไปเป็น 23 มีนาคม แทน ซึ่งทางฝั่ง Console ถึงแม้จะอัปเดตโหมดนี้เข้ามาแล้ว ก็ยังมีการปิดคอนเทนต์บางส่วนอยู่เช่นกัน และจะมีการอัปเดตระบบอีกครั้งในวันเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเหมือนว่า Cross-Play จะไม่ได้มากับอัปเดตนี้ด้วย มีการยืนยันผ่านทาง Twitter ว่า หลังจากนี้ Watch Dogs: Legion จะมีระบบ Cross-Play กับ Cross-Generation-Play ถูกอัปเดตเข้ามาด้วยอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่รอบวันที่ 23 มีนาคม 2021 ซึ่งคิดว่า Ubisoft น่าจะต้องการแน่ใจว่า คอนเทนต์ทั้งหมดที่มีให้เล่น จะเล่นได้โดยไม่มีบัคใดๆ ครับ While crossplay and cross-generation-play is currently not available for the Watch Dogs: Legion Online Mode, the development team is working on adding this feature to the game with a later update. — Watch Dogs: Legion (@watchdogsgame) March 14, 2021 การสามารถเล่นเกมกับเพื่อนบนต่างเครื่องได้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับเลยว่าพวกเราน่าจะอยากเล่นเกมที่ไม่มีบัค หรือมีบัคน้อยมากกว่าครับ Credit: GamingBolt
15 Mar 2021
Watch Dogs: Legion เลื่อนอัปเดตโหมด Online บน PC ออกไปเป็น 23 มีนาคม
หลังจากเลื่อนอัปเดตจากปลายปีที่แล้วมาเป็นต้นปีนี้ แต่เหมือนว่าโหมด Online ของ Watch Dog: Legion ยังคงพบปัญหาอีกเล็กน้อยบนเครื่อง PC จนส่งผลให้ต้องเลื่อนวันอัปเดตออกไปอีก 2 อาทิตย์จาก 9 มีนาคม ไปเป็น 23 มีนาคม โดยปัญหาเกิดจากการที่เกมจะดับไปเองดื้อๆ เมื่อเล่นด้วยการ์ดจอบางตัวครับ ถึงแม้ว่าประกาศนี้จะไม่ได้เลื่อนอัปเดตโหมด Online บนเครื่องคอนโซลด้วย แต่เหมือนว่าอัปเดตของวันที่ 9 จะไม่ได้เปิดให้เล่นโหมดทั้งหมดเช่นกัน และทางฝั่ง PlayStation จะยังไม่สามารถใช้ Chat Text ในเกมได้ ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้จะถูกแก้ไขในอัปเดตวันที่ 23 มีนาคม 2021 พร้อมกันกับ PC สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ โหมด Online ของ Watch Dogs: Legion จะถูกอัปเดตให้กับเจ้าของเกมบนทุกเครื่องฟรีๆ โดยตัวเกมวางขายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC A message from the Watch Dogs: Legion team about the Online Mode: pic.twitter.com/VVeaZ7v7yb — Watch Dogs: Legion (@watchdogsgame) March 5, 2021 Credit: VG247  
08 Mar 2021
Watch Dogs Legion: ความรู้สึกจากการทดลองเล่นโหมด Online
ด้วยเนื้อหาของเกมที่เกี่ยวกับการรวมตัวกันของผู้คนธรรมดาๆ เพื่อต่อต้านอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า ทำให้เกม Watch Dogs Legion เป็นเกมที่เหมาะจะมีโหมด Multiplayer มากๆ อยู่แล้ว แม้ว่าโหมดจะไม่ได้มีอยู่ในเกมนับตั้งแต่ที่วางจำหน่าย และถูกเลื่อนมาจากกำหนดการเดิมในเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา แต่ทางผู้พัฒนา Ubisoft ก็ยังไม่ได้ทิ้งโหมดนี้ไปแต่อย่างใด และเตรียมจะเพิ่มโหมดเข้าไปในเกมตามสัญญาเร็วๆ นี้แล้ว! เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบเล่นเกม Watch Dogs Legion โหมดออนไลน์ ที่จะเปิดให้ผู้เล่นสามารถโลดแล่นไปในมหานครลอนดอนของเกมร่วมกับผู้เล่นอีก 3 คน (รวมกันเป็นห้องละ 4 คน) เพื่อช่วยกันทำภารกิจชนิดต่างๆ ในแผนที่ของเกมได้อย่างอิสระ โดยแม้ว่าประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เขียนอาจยังไม่สามารถพูดได้ว่าน่าประทับใจหรือน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ รวมถึงองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ยังรู้สึกไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้มองเห็น “ความเป็นไปได้” ของโหมดที่จะต่อยอดระบบเกมเพลย์ของ Watch Dogs Legion ไปในทิศทางที่น่าสนใจมากขึ้นในอนาคต สำหรับรูปแบบเกมเพลย์ของโหมด Watch Dogs Legion Online ในช่วงต้น จะค่อนข้างคล้ายกับโหมด Singleplayer ของเกม ผู้เล่นจะเริ่มเกมในฐานะตัวละครชาวเมืองธรรมดา (รูปร่างหน้าตาจะถูกสุ่มมา) ก่อนที่จะค่อยๆ เสริมทีมด้วยการชักชวนตัวละครที่พบในโลก Open World มาเป็นพวก โดยเหล่าชาวเมืองเหล่านี้ก็จะมีทักษะและอุปกรณ์ติดตัวที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาชีพของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่นตัวละครที่มีอาชีพช่างก่อสร้างก็จะมีความสามารถในการเรียกหุ่นโดรนก่อสร้างมาขับขี่ได้เป็นต้น ซึ่งในจุดนี้ก็ไม่ต่างจากที่พบได้ในโหมด Singleplayer เท่าไหร่ จุดแตกต่างอย่างแรกคือวิธีการชักชวน NPC มาเป็นพวก แทนที่เราจะต้องช่วย NPC ทำภารกิจประจำตัวเสียก่อน ในโหมด Watch Dogs Legion Online นั้นสามารถทำได้ง่ายกว่ามากๆ เพียงแค่เรามีแต้ม Influence มากพอก็จะสามารถกดแสกน NPC ตัวไหนก็ได้และชวนเชามาเป็นพวกได้ทันที ซึ่ง NPC บางตัวอาจจะต้องใช้แต้มที่สูงกว่าตัวอื่นๆ เช่นถ้าเราอยากจะชวนทหารจากกองทัพ Albion (หนึ่งในองค์กรที่เป้นศัตรูหลักของเรา) มาเป็นพวก ก็อาจจะต้องใช้แต้มมากกว่าตัวละครตาสีตาสาตามถนนทั่วไปประมาณหนึ่งเป็นต้น เมื่อรวบรวม NPC ที่ต้องการจนพอใจแล้ว ภายในโหมด Online จะมีภารกิจให้เล่นอยู่ 4 ชนิดหลักๆ ด้วยกัน คือ Open World Mission, Co-op Mission, Tactical Ops, และ Spiderbot Arena ซึ่งเราจะขอพูดถึงแต่ละโหมดแยกกัน Open World Mission สำหรับภารกิจขั้นพื้นฐานที่สุด จะมีลักษณะเป็นภารกิจสั้นๆ ที่สามารถทำได้จากแผนที่ Open World ได้โดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้ต่างจากภารกิจในโหมด Single Player เท่าไหร่ บางภารกิจอาจจะให้เราลอบเข้าไปในฐานที่มั่นของศัตรูเพื่อแฮ๊คขโมยข้อมูลหรือสิ่งของ (เช่นรถ) หรือกระทั่งการกำจัด NPC ศัตรูที่กำหนดเป็นต้น ด้วยความที่แทบจะไม่ต่างจากภารกิจในโหมด Single Player ทำให้ภารกิจเหล่านี้แทบจะไม่ต้องใช้การร่วมมือกันระหว่างผู้เล่นเลย และดูเหมือนจะมีเอาไว้เพื่อใช้เก็บแต้ม Influence และเงิน ET0 อย่างรวดเร็วเพื่อปลดล๊อคตัวละคร เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์แก๊ตเจ็ตไปใช้ในภารกิจอื่นๆ ที่มีความยากและซับซ้อนกว่า Co-op Mission อย่างที่อาจจะพอเดาได้จากชื่อ ภารกิจชนิดนี้จะเป็นจุดกึ่งกลางระหว่าง Open World Mission และ Tactical Ops ซึ่งจะมีความยากและความซับซ้อนของเงื่อนไขการผ่านสูงกว่าภารกิจ Open World Mission ทั่วไป เปรียบได้กับเหล่าภารกิจ Jobs ในเกมอย่าง GTA Online โดยภารกิจนิดนี้มักจะถูกแบ่งออกเป็น 2-3 ช่วง เช่นภารกิจหนึ่งที่ผู้เขียนได้ลองเล่นจะเริ่มโดยให้เราบุกเข้าไปในโกดังของศัตรูเพื่อทำลายรถยนตร์จำนวนหนึ่ง นำไปสู่การป้องกันพื้นที่จากกลุ่มศัตรูที่บุกเข้ามา และจบด้วยการตามล่าศัตรูระดับหัวหน้าจำนวน 6 ตัวที่แอบซ่อนอยู่ในพื้นที่รอบๆ โดยภารกิจชนิดนี้มักจะมีส่วนที่บังคับให้เราต้องเปิดหน้าสู้กับศัตรูโดยตรงอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่เสมอ แตกต่างจากภารกิจ Open World Mission และภารกิจจากโหมด Singleplayer ที่มักจะสามารถทำได้ด้วยการลอบเร้น 100%    การที่ภารกิจมักจะบังคับให้ต้องปะทะกับกลุ่มศัตรูโดยตรง ทำให้ภารกิจชนิดนี้ให้ความรู้สึกขัดแย้งกับสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Watch Dogs Legion พอสมควร เพราะรู้สึกเหมือนโดนบังคับให้ต้องเล่นแบบใดแบบหนึ่งอยู่ตลอดเวลา แทนที่จะสามารถผ่านภารกิจได้ด้วยวิธีทีหลากหลายตามทางเลือกของผู้เล่น ซึ่งขนาดที่ค่อนข้างเล็กของพื้นที่ในการทำภารกิจยังจำกัดทางเลือกของผู้เล่นมากกว่าเดิม เพราะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ชนิดต่างๆ ที่มีในเกมได้อย่างเต็มที่นัก ทำให้ภารกิจเหล่านี้กลายเป็นการแลกกระสุนกับศัตรูไม่ต่างกับเกมอย่าง The Division หรือเกมยิงปืนแบบ 3rd Person ทั่วไปเลย แถมภารกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะจบในเวลาเพียงไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ จึงไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นต้อง “ร่วมมือ” กับผู้เล่นอื่นจริงๆ มากไปกว่าแค่ช่วยๆ กันยิงศัตรูให้หมดไปอย่างนั้นเอง Tactical Ops Mission อาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงของโหมด Online เลยก็ว่าได้ โดยจะดำเนินไปตาม “เนื้อเรื่อง” ที่มีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงภารกิจทั้ง 5 ที่มีให้เล่นเอาไว้ด้วยกัน โดยจะต้องใช้ผู้เล่นอย่างน้อย 3 คนจึงจะเริ่มเล่นได้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นภารกิจที่เพิ่มความยากและความซับซ้อนมากกว่าภารกิจทั่วไปอย่างมีนัยยะสำคัญ คล้ายกับภารกิจแบบ Heist ของ GTA Online แต่ไม่ลึกซึ้งเท่า ข้อดีของภารกิจชนิดนี้คือการที่ภารกิจดูจะเปิดกว้างต่อการแก้ไขปัญหาในวิธีที่หลากหลายกว่าภารกิจอื่นๆ และสามารถเปิดช่องให้ผู้เล่นได้ใช้ความสามารถและอุปกรณ์พิเศษที่เกมมอบให้ได้อย่างเต็มที่ที่สุดในหมู่ภารกิจทั้งหมดเลย  ยกตัวอย่างในภารกิจ Tactical Ops อันแรกที่ผู้เล่นจะได้รับมอบหมายให้ลักลอบเข้าไปในอาคารฐานที่มั่นของศัตรูสองแห่งเพื่อดาวน์โหลดข้อมูลจากเซิฟเวอร์ภายใน แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องโหลดข้อมูลจากทั้งสองสถานที่พร้อมกัน ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องแบ่งทีมออกเป็นสองกลุ่มและทำภารกิจในสองสถานที่พร้อมๆ กัน ซึ่งเมื่อไปถึงแล้วก็ยังสามารถใช้วิธีพลิกแพลงเพื่อทำภารกิจได้ค่อนข้างมาก อย่างผู้เขียนกับเพื่อร่วมทีมที่ไปด้วยกันเลือกที่จะให้คนหนึ่งคอยดูต้นทางให้ด้วยการแฮ๊คกล้องวงจรปิด ในขณะที่อีกคนใช้หุ่น Spiderbot ลักลอบเข้าไปในฐานเป็นต้น แต่จริงๆ แล้วเมื่อลองสำรวจฐานศัตรูดูก็ค้นพบวิธีอื่นๆ ที่น่าจะใช้ได้อีกเพียบ ตั้งแต่การขี่หุ่นโดรนก่อสร้างเพื่อบินขึ้นไปบนหลังคาและลักลอบเข้าจากด้านบน หรือจะแฮ๊คกล้องวงจรปิดในฐานเพื่อเรียกหุ่น Spiderbot จากในฐานเลยก็ได้ เมื่อยิ่งดำเนินเนื้อเรื่องของ Tactical Ops ไปเรื่อยๆ ก็พบว่าภารกิจที่ตามๆ มาก็เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นทั้งในแง่ของภารกิจและชนิดของศัตรูที่พบ และต้องใช้การสื่อสารกันระหว่างทีมมากขึ้นไปตามลำดับ โดยสำหรับคนที่มีทีมที่พร้อมสื่อสารกันได้ก็จะทำให้เป็นประสบการณ์เกม Coop ที่สนุกและลึกซึ้งอยู่ไม่น้อย แต่ก็อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับการเล่นแบบ Public กับคนแปลกหน้าเพราะภารกิจจะยากมากๆ ถ้าไม่สามารถคุยกันและวางแผนได้ แถมเพื่อนร่วมทีมที่เพิ่มขึ้นยังอาจจะทำให้ะลอบเร้นเงียบๆ แทบจไม่ได้เลยหากไม่ได้คุยกัน ทั้งนี้ ภารกิจ Tactical Ops ก็ยังมีปัญหาอย่างหนึ่งที่พบในโหมด Co-op Mission นั่นก็คือการที่เกมมักจะบังคับให้ต้องเปิดหน้ายิงกับศัตรูในบางช่วง ทำให้เกมกลายเป็นเพียงเกมยิงปืนบุคคลที่ 3 ธรรมดาๆ ไปในจังหวะเหล่านี้ ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหานักสำหรับหลายๆ คน แต่ก็แอบขัดกับเกมเพลย์ที่ผ่านมาที่เน้นทีมเวิร์คและการวางแผนอย่างสร้างสรรค์ไปพอสมควร Spiderbot Arena สำหรับโหมดสุดท้ายนี้ จะเป็นการให้ผู้เล่น 4 คนบังคับหุ่น Spiderbot เพื่อต่อสู้กันในแผนที่เล็กๆ โดยในตอนเริ่มต้นจะมีเพียงปืนกลจระจอกๆ ให้ใช้ แต่ภายในแผนที่ก็จะมีอาวุธหลากหลายให้เก็บไว้เล่นงานผู้เล่นคนอื่นๆ เช่นปืนลูกซองหรือปืนเลเซอร์เป็นต้น เมื่อเล่นทำคะแนนไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถปลดล๊อคลวดลายใหม่ๆ ไว้แต่งหุ่นของเราให้ต่างกับของเพื่อนได้ แม้จะเป็นโหมด PvP เพียงหนึ่งเดียวที่มีให้เลือกเล่น แต่เอาเข้าจริงจะเรียกว่าเป็นโหมดแถมก็ได้ เพราะในโหมดนี้ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งไปกว่าการลงไปไล่ยิงกันเองขำๆ ด้วยหุ่นโดรน อาวุธที่มีให้เลือกก็ไม่ได้พิศดารหรือแปลกอะไรมาก แถมของรางวัลจากโหมดก็มีเพียงลวดลายใหม่ๆ เอาไว้แต่งหุ่นโดรนที่ใช้ได้เฉพาะในโหมดนี้อีกด้วย โดยแม้ว่าส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะรู้สึกว่าเกมเพลย์ของมันก็สนุกดี แต่พอเล่นไปได้ซักรอบสองรอบก็เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน น่าสงสัยว่าทำไม Ubisoft จึงเลือกจะใส่โหมดนี้เข้ามา แทนที่จะทำโหมด PvP เต็มรูปแบบที่จะรองรับผู้เล่นได้มากกว่าแค่ 4 คน สรุป กล่าวโดยสรุป แม้จะยังปฏิเสธไม่ได้ว่าโหมด Online ของ Watch Dogs Legion ยังอาจจะมีจุดอ่อนอยู่บ้าง โดยเฉพาะในโหมดภารกิจเล็กๆ ทั้งหลายที่ยังไม่น่าสนใจนัก รวมไปถึงโหมด PvP Spiderbot Arena ที่ดูจะเป็นมินิเกมมากกว่าเป็นโหมดเต็มๆ แยกออกมา แต่อย่างน้อยภารกิจ Tactical Ops ก็ยังสามารถต่อยอดเกมเพลย์จาก Singleplayer ได้อย่างน่าสนใจด้วยการเพิ่มองค์ประกอบของการร่วมมือกันระหว่างผู้เล่น คงต้องรอดูกันต่อไปว่าผู้พัฒนาจะสามารถเพิ่มภารกิจเหล่านี้เข้าไปในเกมได้สม่ำเสมอแค่ไหน และจะมีรูปแบบภารกิจแปลกๆ แบบไหนมาให้เราได้ร่วมกันฝ่าฟันไปกับทีมอีกในอนาคต
25 Feb 2021
Watch Dogs Legion เตรียมปล่อย Multiplayer ให้ได้เล่นกันวันที่ 9 มีนาคม 2021
หลังจากที่เลื่อนวันอัปเดตจากเดือน กันยายน ปีที่แล้วมาเป็นต้นปีนี้แทน ในที่สุดก็มีประกาศออกมาแล้วว่าโหมด Multiplayer ของเกม Watch Dogs Legion จะอัปเดตเข้ามาให้เราได้เล่นกันวันที่ 9 มีนาคม 2021 นี้ ทั้งบนเครื่อง PlayStation, Xbox และ PC ในการอัปเดตครั้งนี้ ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปทั่วเมือง London จับกลุ่มกับผู้เล่นอื่นได้สูงสุด 4 คน แล้วทำภารกิจเสริมตามสถานที่ต่างๆ หรือสนุกไปกับอีเวนต์ที่เกิดขึ้นภายในเมือง โดยภารกิจในรูปแบบ Co-Op จะมีแมคคานิครูปแบบใหม่ ให้เหล่าผู้เล่นช่วยกันแก้ปัญหาอีกด้วย “Leader of the Pack,” คือภารกิจ Tactical Op รูปแบบ 4 คนแรก ที่จำเป็นต้องใช้การทำงานร่วมกัน และการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมระหว่างผู้เล่น โดยภารกิจดังกล่าวจะถือเป็นหนึ่งในภารกิจรูปแบบ "End Game" ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ชอบความท้าทาย นอกจากเกมเพลย์ที่อาศัยความร่วมมือกันแล้ว ผู้พัฒนาได้เพิ่มโหมด PVP แรกเข้ามาชื่อว่า Spiderbot Arena โดยผู้เล่นจำเป็นต้องควบคุมหุ่นยนต์แมงมุม 4 ตัว เข้าต่อสู้เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง ทั้งหมดนี้จะถูกอัปเดตให้กับผู้เล่นที่มีเกมอยู่แล้วฟรีๆ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อส่วนเสริมเพิ่มเติมเลย ใครที่รอจะเล่นเกมนี้กับเพื่อนอยู่ สามารถกาปฏิทินรอได้เลยครับ Credit: https://www.vg247.com/.../watch-dogs-legion-multiplayer.../
23 Feb 2021
Ubisoft เผย ช่วงปลายปี 2020 บริษัทมียอดขายมากที่สุดในประวัติศาตร์
ตั้งแต่ช่วง ตุลาคม - ธันวาคม 2020 เราอาจสังเกตได้ว่าทาง Ubisoft ได้มีการปล่อยเกมฟอร์มยักษ์ใหม่ออกมาเยอะที่สุดในหมู่ Publishers รายใหญ่ด้วยกันประกอบด้วย Watch Dogs Legions, Assassin’s Creed Valhalla และ Immortals Fenyx Rising ซึ่งจากรายงานผลประกอบการช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2020 ได้ชี้ให้เห็นว่า Quarter ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล นอกจากเรื่องเงินที่ทำได้แล้ว CEO คุณ Yves Guillemot ยังเคลมอีกด้วยว่า "บริษัทมีจำนวนเกมที่ขายรวมกัน บนทุกแพลตฟอร์มมากที่สุดในปี 2020" ถ้ามานั่งย้อนมองในปีที่ผ่านมาทางบริษัทมีหลายเกมที่ฮิตติดกระแสเหล่าผู้เล่นมากมายจริงๆ โดยนอกจากสามเกมข้างบนแล้ว Just Dance 2020, Far Cry 5, The Crew 2 ก็ดูจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากรายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่า Ubisoft ได้เดินมายังเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว และหวังว่าทางบริษัทจะยังคงก้าวไปในเส้นทางที่ถูกเช่นนี้เรื่อยไปครับ (อ่านรายงานผลประกอบการช่วง Quarter สุดท้ายของ 2020 ได้ผ่านลิงก์นี้) Credit: GamingBolt  
10 Feb 2021
Epic Games Store เตรียมจัดงาน Showcase ลดราคาเกม AAA วัน พฤ นี้
ได้มีการประกาศโดย Epic Games Store วันนี้ว่า เตรียมพบกับงานไลฟ์สตรีม Showcase วัน พฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2021 นี้ โดยจากประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ดูเหมือนในช่วงเวลาเดียวกันจะมีการลดราคาเกมฟอร์มยักษ์หลายตัวในหน้าร้านค้าสูงสุดถึง 75% ด้วย โดยในรายชื่อมี Cyberpunk 2077, Assassins Creed Valhalla, Watch Dogs: Legion และเกม AAA ชื่อดังอีกมากมายเข้าร่วมด้วย! จากรายงานของ Gameinformer มีความเป็นไปได้ที่เราอาจได้เห็นการเปิดตัวเกมใหม่ ที่มีข่าวว่า Epic Games Store ซุ่มพัฒนาอยู่ด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ สำหรับการลดราคาเกมครั้งนี้ดูเหมือนจะยิงยาวเป็นเวลา 2 อาทิตย์ตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์ ยาวไปจนถึง 25 กุมภาพันธ์ เลยทีเดียว งานนี้ใครมีเกมอะไรอยากซื้อก็คำนวณเงินกันดีๆ นะครับ เข้าไปดูรายชื่อเกมที่จะลดราคาในครั้งนี้ได้ผ่านลิงก์นี้ ส่วนไลฟ์สตรีมสามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้ โดยจะเริ่มเวลา 2.00 am ของวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาบ้านเราครับ
09 Feb 2021
 Watch Dogs: Legion เลื่อนอัปเดตโหมด Multiplayer ไปต้นปีหน้าแทน!
ก่อนหน้านี้ Ubisoft เคยบอกว่า Watch Dogs: Legion จะมีการอัปเดตโหมด Multiplayer ให้เราสามารถเล่นกับเพื่อนๆ ได้ในช่วงเดือนที่จะถึงนี้ ซึ่งในโหมดดังกล่าวจะมีการเพิ่มภารกิจใหม่สำหรับเล่นหลายคนเขามาด้วย แต่เหมือนว่าล่าสุด การอัปเดตดังกล่าวจะเลื่อนไปต้นปีหน้าแทนแล้วครับ! ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า "เพื่อให้ตัวเกมสามารถทำ Watch Dogs Online ออกมาได้สมบูรณ์จริงๆ ทางทีมพัฒนาจึงได้ตัดสินใจที่จะเล่นวันอัปเดตแพทช์  ดังกล่าวออกไปเป็นต้นปีหน้าแทน" นั้นจึงหมายความว่าโหมด PVP ด้วยเช่นกัน ดังนั้นใครที่กำลังรอเล่นแบบ Co-Op กับเพื่อนในเกมนี้อยู่ ก็ต้องรอกันเพิ่มอีกนิดครับ! Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt 
26 Nov 2020
คนที่ซื้อแผ่นเกมของ Ubisoft บน PS4 ดูจะมีปัญหาในการย้ายไปเครื่อง PS5
Assassins Creed Valhalla และ Watch Dogs Legion เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ซึ่งทั้งสองเกมต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ดีมาก และมันจะยอดเยี่ยมมากถ้าหากเพื่อนๆ ได้เล่นเกมนี้บนเครื่องเจนใหม่อย่าง PS5 กับ Xbox Series X แต่สำหรับใครที่ซื้อแผ่นเกมนี้บนเครื่อง PS4 ไปแล้ว อาจจำเป็นต้องใช้วิธียุ่งยากนิดหน่อยในการนำเกมนี้ไปอัพเกรดเล่นบนเครื่อง PS5 ครับ! ปัญหาการอัพเกรดเกมบนเครื่อง PS5 ไม่ได้สำหรับคนที่มีแผ่นเกิดขึ้นกับผู้เล่นหลายคนในโซน EU โดยพวกเขาบอกว่า ไม่ได้รับข้อความให้อัพเกรดเกมเลย หลังจากที่ใส่แผ่นเข้าไปแล้ว ซึ่งบางที่อาจเป็นบัคบางอย่างที่เกิดขึ้นกับ Firmware ของเครื่อง PS5 ที่ดูจะยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องดี ที่อย่างน้อยเรายังสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเองอยู่ครับ Ubisoft ได้โพสต์บอกขึ้นตอนการอัพเกรดเกมเป็นเวอร์ชัน PS5 ให้กับคนที่ใส่แผ่น PS4 เข้าไปแล้วไม่ขึ้นขอความให้อัพเกรดแล้ว โดยสิ่งที่ทุกคนต้องทำมีดังต่อไปนี้ครับ ใส่แผนเกม PS4 เข้าไปในเครื่อง PS5 ไปที่หน้า game hub ของ PS4 และเลือกหัวข้อ VIEW PRODUCT ให้เลือกรับข้อเสนออัพเกรดเกมเป็นเวอร์ชัน PS5 กดดาวน์โหลด หรือ ซื่อสินค้าในราคาที่ลดลงแล้ว. หลังจากดาวน์โหลดเสร็จสิ้นแล้ว ผู้เล่นสามารถเล่นเกมดังกล่าวเวอร์ชันอัพเกรดแล้วได้เลยด้วยแผ่น PS4 (จำเป็นต้องใส่แผ่นทุกครั้งที่จะเล่น) Assassins Creed Valhalla และ Watch Dogs Legion วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GameRant
24 Nov 2020
Source Code ของเกม Watch Dogs: Legion หลุดออกมาในโลกอินเทอร์เน็ต!
Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายมาได้เกือบ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆ กำลังตัดสินใจจะซื้อเกมนี้มาเล่นในตอนนี้ละก็ ยังไงเราก็แนะนำให้เล่นบนเครื่อง PC ครับ และจากข่าวก่อนหน้านี้ เกมนี้จะมีโหมด Multiplayer ถูกอัปเดตเข้ามาให้เราเล่นกับเพื่อนๆ ในภายหลังด้วย แต่ล่าสุดเหมือนว่าเราอาจพบคนใช้โปรแกรมโกงในโหมด Multiplayer ได้ด้วยเช่นกันครับ เว็บไซต์ DSOGaming ได้รายงานว่ากลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า Egregor ได้ปล่อย Source Code ของเกม Watch Dogs: Legion ออกมาในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งนี่อาจทำให้มี Crack ของเกม กับโปรแกรมโกงตามมาในอนาคต โดยมันอาจทำลายสังคมในโหมด Multiplayer ของเกมได้เลย ล่าสุดทาง Ubisoft ยังไม่ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องรอดูต่อไปว่าพวกเขาจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงครับ Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC โดยตัวเกมจะลงให้กับ PS5 กับ Xbox Series X / S ในภายหลังครับ Credit: IGN
04 Nov 2020
รีวิว Watch Dogs: Legion "ก้าวแรกสู่ Next Gen ของ Ubisoft"
หลังจากที่ได้ทดลองเล่นเกม Watch Dogs: Legion บนเครื่อง PS4 และ PC รวมๆ กันราว 20 ชั่วโมง ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงการเล่นเกมคร่อม Gen อย่าง Assassins Creed IV: Black Flag ในเครื่อง PS3 เมื่อหลายปีมาแล้ว โดยแม้ว่าเกมเพลย์จะไม่ได้ต่างกันกับเวอร์ชั่น PS4 ที่ถือเป็น "Next-Gen" ในสมัยนั้น แต่ประสบการณ์ที่ได้จากเกมทั้งสองเวอร์ชั่นช่างต่างกันเหลือเกิน จากองค์ประกอบที่พัฒนาขึ้นจาก Gen หนึ่งไปอีก Gen หนึ่ง เกม Watch Dogs: Legion (เช่นเดียวกับเกม ACIV: Black Flag ที่กล่าวไป) อาจจะไม่ใช่เกมที่แปลกใหม่หรือหวือหวามากในแง่ของเกมเพลย์พื้นฐาน เช่นระบบต่อสู้ ระบบขับรถ หรือแม้กระทั่งระบบการแฮ๊คกิ้งของเกม ที่แม้จะดีขึ้นจากภาค 2 พอสมควร แต่ก็ไม่ได้พิเศษไปกว่าเกมอื่นๆ ที่ผ่านมาของค่าย Ubisoft เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้เกมมีความรู้สึกเป็น "Next-Gen" คือเรื่องของกราฟิกและเวลาโหลด ที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมบน PS4 และ PC แตกต่างกันอย่างชัดเจน และมีอิทธิพลต่อประสบการณ์การเล่นเกมอย่างมีนัยยะสำคัญเลย (ขอขอบคุณ Ubisoft สำหรับโค้ดเกมเวอร์ชั่น PS4 และ NVIDIA สำหรับเวอร์ชั่น PC) เนื้อเรื่อง Watch Dogs: Legion จะเกิดขึ้นหลังจากเกม Watch Dogs 2 ประมาณหนึ่ง โดยจะติดตามกลุ่มแฮ๊คเกอร์ DedSec สาขาลอนดอน ผู้ซึ่งต้องต่อกรกับองค์กรทหารรับจ้าง Albion ที่ถูกรัฐบาลลอนดอนว่าจ้างให้รักษาความสงบในเมือง หลังจากเหตุการณ์วางระเบิดครั้งใหญ่ของผู้ก่อการร้าย Zero Day แต่บริษัท Albion กลับฉวยโอกาสนี้ในการเข้ายึดครองเมืองลอนดอนอย่างเต็มตัวด้วยการป้ายสีความผิดให้กับ DedSec พร้อมกับจับกุมประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต่อต้านพวกเขาไปคุมขังอย่างกว้างขวาง ผู้เล่นจะรับบทเป็นสมาชิกใหม่ขององค์กร DedSec สาขาลอนดอน ผู้ซึ่งต้องชักชวนเหล่าประชากรผู้เหลืออดกับอำนาจเผด็จการของ Albion ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับผู้กดขี่ และทำให้ลอนดอนเป็นอิสระจากกลุ่มทหารรับจ้างที่ว่านี้อีกครั้ง   ถ้าให้เปรียบเทียบกับเนื้อเรื่องของเกมภาคที่ผ่านมา Watch Dogs: Legion เปรียบเสมือนจุดกึ่งกลางระหว่างความซีเรียสอึมครึมของเกมภาคแรก และความอารมณ์ดีติดตลกของเกมภาค 2 ซึ่งเป็นสมดุลที่กลมกล่อมกว่าทั้งสองภาคที่ผ่านมามากๆ โดยแม้ว่าเราจะยังมีตัวละครอย่างเจ้า A.I. ฝีปากร้ายประจำกลุ่ม DedSec อย่าง Bagley ที่จะคอบปล่อยมุกแซวผู้เล่นตลอดเวลา แต่เนื้อเรื่องก็ยังพูดถึงเหตุการณ์หนักๆ อย่างการค้าอวัยวะมนุษย์หรือการค้าแรงงานผิดกฏหมายได้พร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้เรื่องราวของเกมไม่รู้สึกจริงจังหรือมืดมนมากจนเกินพอดี ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่น่าชมไม่แพ้กันก็คือการที่เกมสามารถผูกโยงเรื่องราวของเหล่า NPC นิรนามในโลกเข้ากับเนื้อเรื่องของเกมได้ และทำให้ NPC เหล่านี้รู้สึกเหมือนมีความเป็นมนุษย์มาก จากบทสนทนาที่มีเสียงพากย์สำหรับตัวละครทุกตัว ไปจนถึงอุปนิสัยของตัวละครที่แสดงออกมาผ่านบทสนทนากันเองในทีมอย่างเป็นธรรมชาติ หรือการพูดบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจากประสบการณ์ของผู้เขียน NPC ในเกมนี้มีอุปนิสัย หน้าตา และภูมิหลังที่หลากหลายมากๆ (ยังไม่เคยเจอตัวที่หน้าตาซ้ำกันเลย) และความหลากหลายนี้เองก็ช่วยทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันกว่าเดิมด้วย ยิ่งเราเชิญชวน NPC เข้ามาร่วมทีมได้มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้บทสนทนาระหว่างสมาชิกทีม DedSec ของเรามีชีวิตชีวามากขึ้นไปด้วย นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว WD: L ยังมีเนื้อเรื่องเล็กๆ ของ NPC แต่ละตัว รวมไปถึงเนื้อเรื่องประจำเขต (Boroughs) ต่างๆ ของเมืองลอนดอนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดล้วนพูดถึงความพยายามของเหล่าประชาชนคนเดินดินในการต่อต้านอำนาจของ Albion ซึ่งก็ช่วยเสริมให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนตัวเองและการกระทำของเรามีผลต่อโลกในแบบที่เป็นธรรมชาติมาก แม้ว่าผู้เขียนจะยังไม่ได้เล่นจนจบเนื้อเรื่อง (เนื่องจากได้โค้ดเกมมาค่อนข้างช้า) ทำให้ยังไม่สามารถออกความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องโดยรวมๆ ได้ แต่เท่าที่ผู้เขียนเล่นมา ก็ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องและบทพูดของ Watch Dogs: Legion เป็นการพัฒนาขึ้นจากภาคก่อนหน้าอย่างชัดเจน และเป็นเกม Watch Dogs เกมแรกที่ผู้เขียนรู้สึกสนใจเนื้อเรื่องขึ้นมาจริงๆ เกมเพลย์ ในขั้นพื้นฐานนั้น เกม Watch Dogs: Legion ก็ไม่ได้แตกต่างจากเกมโลกเปิดสูตร Ubisoft อื่นๆ นัก ผู้เล่นจะต้องเดินทางไปบนแผนที่อันกว้างใหญ่ของเมืองลอนดอนเพื่อทำภารกิจหลากหลายชนิด เพื่อดำเนินเนื้อเรื่องและ/หรือเก็บทรัพยากรณ์หรือของตกแต่งไว้สำหรับพัฒนาตัวละครไปเรื่อยๆ โดยระบบการควบคุมเบื้องต้นก็ไม่ได้ต่างจากเกมแอคชั่นบุคคลที่ 3 ทั่วไปนัก ระบบที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดอาจจะมีเพียงระบบต่อสู้มือเปล่า ที่ใส่ความเป็นเกมแอคชั่นแบบเดียวกับ The Witcher เข้าไป โดยผู้เล่นจะต้องคอยหลบหลีกและหาจังหวะสวนกลับการโจมตีของศัตรูตลอดเวลา ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นประมาณหนึ่ง แถมตัวละครแต่ละชนิดยังมีท่าทางแอคชั่นที่ต่างกัน ทำให้มีความน่าสนใจทั้งในแง่ของเกมเพลย์และอนิเมชั่นด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้จะพูดได้เต็มปากว่า WD: L ถือเป็นเกม Watch Dogs ที่ดีที่สุด แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นเกมที่ “ดี” ในภาพรวมได้แค่ไหน จากเกมเพลย์อีกหลายๆ ส่วนที่ยังไม่ค่อยเข้ารูปเข้ารอยนัก อย่างแรกคือระบบการแฮ๊คกิ้ง ที่ยังคงติดๆ ขัดๆ อยู่ไม่ต่างจากเกมภาคเก่า แม้จะมีลูกเล่นใหม่ๆ อย่างการบังคับโดรนก่อสร้างเพื่อบินไปไหนมาไหน แต่โดยรวมก็ไม่ได้ต่างไปจากที่ผ่านมานัก ผู้เล่นจะต้องกระโดดจากกล้องวงจรปิดเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอมุมที่ต้องการในการแฮ๊คเข้าสู่ระบบที่ต้องแฮ๊ค โดยแม้ว่าในบางกรณีที่ต้องทำการแฮ๊คกิ้งในพื้นที่จำกัดจะไม่ได้มีปัญหานัก และยังมีพื้นที่ให้เราใช้การแฮ๊คกิ้งในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้ แต่เมื่อเราต้องบุกเข้าไปในอาคารหรือฐานทัพขนาดใหญ่ ก็อดหงุดหงิดไม่ได้เหมือนกัน เมื่อเราเลือกไม่ถูกว่ากล้องวงจรปิดกล้องไหนกันแน่ที่จะมองเห็นมุมที่เราต้องการ และการโดดไปโดดมาอย่างไร้จุดหมายก็ไม่ใช่เกมเพลย์ที่สนุกเท่าไหร่นัก และทำให้การเล่นเกมเหมือนเป็นเกมลอบเร้นบุคคลที่ 3 ธรรมดาๆ กลับรู้สึกสนุกกว่าการแฮ๊คกิ้งจริงๆ อย่างต่อมาคือระบบขับรถของเกม ที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยสนุกเอาซะเลย และเผลอๆ อาจจะแย่กว่าที่เคยมีในเกม Watch Dogs ภาคก่อนๆ ด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งมาจากสภาพถนนของกรุงลอนดินที่ค่อนข้างแคบ ทำให้เราไม่สามารถขับซอกแซกผ่านรถอันอืดอาดของ NPC ได้คล่องแคล่วเท่าเกมอย่าง GTA เมื่อนำมาผนวกกับการที่เกมมักจะบังคับให้เราต้องเดินทางข้ามแผนที่ไปมาเพื่อทำภารกิจ ทำให้ประสบการณ์การเดินทางในเกม Watch Dogs: Legion รู้สึกน่าหงุดหงิดรำคาญใจมากๆ แต่ครั้นจะไปใช้ระบบ Fast Travel ที่อ้างอิงจากรถไฟใต้ดินของลอนดอน ก็ยังหนีไม่พ้นความอืดอาดของจราจรในเกม เพราะผู้เล่นจะต้องเดินเท้าเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อปลดล๊อคสถานีรถไฟในเขตเหล่านั้นเสียก่อนถึงจะสามารถ Fast Travel ไปได้ ทำให้ผู้เล่นเหมือนโดนบังคับให้ต้องใช้การสัญจรทางถนนเป็นวิธีการหลักในการเดินทางอยู่ดี ซึ่งสำหรับผู้เขียนถือเป็นจุดอ่อนมากๆ ของเกมนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใช้ระบบ Fast Travel ก็ยังหนีไม่พ้นความหงุดหงิดรำคาญใจ เพราะเราจะต้องพบกับหน้าจอโหลดเกมทุกครั้งที่เดินทาง หรือกระทั่งทุกครั้งที่เข้า/ออกคัตซีนหรืออาคารบางแห่ง โดยใน PS4 จะต้องเผชิญกับปัญหานี้บ่อยมากๆ จนเรียกได้ว่าทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมแย่ลงไปเลยเหมือนกัน ปัญหาที่กล่าวมาเกี่ยวกับหน้าจอโหลดเกม ทำให้การเล่นเกมบน PC ที่มี SSD (หรือคอนโซล Next Gen ทั้งหลาย) ช่วยทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมดีขึ้นอย่างมาก เพราะความเร็วในการโหลดทำให้ผู้เขียนสามารถใช้ระบบ Fast Travel ได้โดยไม่ต้องรอเกมโหลดเป็นนาทีและทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหลมากขึ้น เรียกว่าเปลี่ยนความรู้สึกของผู้เขียนไปได้เลย จนอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้พัฒนาตั้งใจออกแบบระบบเกมเพื่อให้เล่นบนเครื่องที่มี SSD แต่แรกเลยหรือเปล่า เพราะมันส่งผลต่อประสบการณ์โดยรวมอย่างใหญ่หลวงมาก อีกหนึ่งข้อตำหนิใหญ่ๆ คือเรื่องของภารกิจเสริม เช่นภารกิจการดึง NPC มาเป็นพวก ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ประเภทเท่านั้น และมักจะวนมาให้เล่นซ้ำๆ กันบ่อยมาก ซึ่งการซ้ำในรูปแบบเฉยๆ อาจจะยังไม่แย่มาก แต่บางครั้งก็ซ้ำไปจนถึงฉากที่จะต้องเข้าไปทำภารกิจเลยด้วย เช่นภารกิจหนึ่งบอกให้เข้าไปขโมยคลิปวิดีโอจากสถานีตำรวจ ส่วนอีกภารกิจหนึ่งให้ไปแฮ๊คระบบรักษาความปลอดภัยของสถานีตำรวจแห่งเดียวกัน โดยการที่เราต้องวนเวียนทำภารกิจเดิมๆ ในสถานที่เดิมๆ ก็ทำให้เบื่อหน่ายไปได้เร็วเหมือนกัน นอกเหนือไปจากนั้นก็มีเพียงข้อตำหนิเล็กๆ อย่างการที่เราไม่สามารถเปิดโหมดแสกนค้างเอาไว้เพื่อมองหา NPC ที่น่าชวนมาร่วมทีม (ต้องกดแสกนทีละคน ซึ่งเสียเวลามาก) หรือการที่เราไม่สามารถหยิบอาวุธในฉากหรืออาวุธที่ศัตรูทำหล่นมาใช้ได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญใจเล็กน้อยมากกว่าจะส่งผลต่อประสบการณ์โดยรวมของเกม  กราฟิก/การนำเสนอ อย่างที่อาจจะพอเดาได้จากหัวข้ออื่นๆ การเล่นเกม WD: L ใน PS4 และใน PC เป็นประสบการณ์ที่ต่างกันอย่างมาก และคงไม่มีจุดไหนที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างสองเวอร์ชั่นได้ชัดเจนเท่ากับในส่วนของกราฟิก จากวิดีโอตัวอย่างรวมไปถึงการสื่อสารของผู้พัฒนาที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าระบบ Ray Tracing จะมีความสำคัญมากต่อเกม WD: L ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนรู้สึกว่าต้องเห็นด้วยกับเขาจริงๆ เพราะการเล่นเกมใน PS4 โดยไม่มีระบบ Ray Tracing ทำให้ภาพในเกมรู้สึก “แบน” และจืดชืดไปซะหน่อยเมื่อเทียบกับการเล่นใน PC ที่สามารถแสดงถึงแสงสีของเมืองได้อย่างเต็มที่ แถมด้วยสภาพอากาศของลอนดอนที่มักจะมีฝนตกอยู่บ่อยๆ ยิ่งทำให้เทคโนโลยี Ray Tracing มีความสำคัญต่อประสบการณ์โดยรวมมากกว่าหลายๆ เกมที่ผู้เขียนเคยเล่นมาเลยก็ว่าได้ (เพราะมีพื้นผิวที่สะท้อนแสงเยอะ) นอกจากนี้ เทคโนโลยี NVIDIA DLSS ที่ผู้พัฒนาเลือกใช้ยังทำให้เกมสามารถรันได้อย่างลื่นไหลมากๆ แม้จะเปิด Ray Tracing แถมยังสามารถปรับแต่งสมดุลย์ระหว่างความละเอียดและเฟรมเรตได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดทำให้ประสบการณ์เกมบน PC ดีกว่าบน PS4 อย่างก้าวกระโดด และเชื่อว่าในเครื่อง Xbox Series X / PS5 ก็คงไม่ต่างกัน นอกเหนือไปจากนั้น ต้องบอกว่า WD: L ได้พัฒนากราฟิกในด้านหน้าตาตัวละครและความสมจริงโดยรวมขึ้นจากเกมอย่าง Assassin’s Creed: Odyssey หรือ Ghost Recon: Breakpoint เสียอีก โดยแม้ว่าสุดท้ายคงจะไม่ได้อยู่ในมาตรฐานเดียวกับเกมอย่าง Call of Duty หรือ Cyberpunk 2077 แต่ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ชัดเจน และทำให้ตัวละครในเกมมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้เหมือนกัน ถ้าจะมีข้อเสีย คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ตัวละครในเกมมักจะพูดกันด้วยสำเนียงอังกฤษแบบเน้นๆ ซึ่งแค่นี้ก็หลากหลายและฟังยากมากอยู๋แล้ว ยังมีสำเนียงของเหล่าผู้อพยพจากประเทศต่างๆ ที่ก็มีสำเนียงของตัวเองอีกที แถมการพูดจาของชาวอังกฤษยังเต็มไปด้วยศัพท์แสลงมากมายที่อาจจะต้องตีความกันหน่อยกว่าจะเข้าใจ นับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เกมไม่มีบทบรรยายภาษาไทย เพราะคนที่ฟังภาษาอังกฤษไม่ถนัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วน่าจะยิ่งงงเข้าไปอีก และไม่มั่นใจว่าจะติดตามเนื้อเรื่องหรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดีแค่ไหน สรุป กล่าวโดยสรุป แม้ว่า WD: L จะมีพัฒนาการที่ทำให้เกมมีความน่าสนใจมากกว่าเกมภาคก่อนๆ ในซีรี่ส์ โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อเรื่อง แต่โดยรวมก็ยังไม่ได้มอบอะไรที่ใหม่หรือพิเศษไปกว่าที่เราๆ น่าจะเคยได้เล่นกันมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเกมไม่ดี แต่อาจจะเรียกได้ว่า “เฉยๆ” เสียมากกว่า แฟนๆ ของซีรี่ส์นี้น่าจะชอบเกมนี้ในฐานะเกม Watch Dogs ที่ดีที่สุด แต่สำหรับคนทั่วไป Watch Dogs: Legion อาจจะไม่ได้มีอะไรให้พวกคุณมากไปกว่าเกมแอคชั่นบุคคลที่ 3 เกมอื่นๆ นัก โดยเฉพาะเกมร่วมค่าย Ubisoft ด้วยกัน [penci_review id="71206"]
28 Oct 2020
เราสามารถใช้ Aiden เล่นเนื้อเรื่องหลักของ Watch Dogs Legion ได้เช่นกัน!
นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมากหลังจากรู้ว่า Aiden Pearce พระเอกของ Watch Dogs ภาคแรก จะเป็นตัวละครที่สามารถเล่นได้ใน Watch Dogs Legion และถึงแม้ว่าจะกลับมาในฐานะตัวละคร DLC แต่การเอาเขาไปเล่นในเนื้อเรื่องหลักของเกม ดูเหมือนจะสามารถทำได้ด้วยครับ! จากโพสต์ถามตอบของ Lathieeshe Thillainathan บนเว็บไซต์ Reddit มันทำให้เรารู้ว่า ผู้เล่นสามารถนำ Aiden Pearce ที่เป็นตัวละครภายใน DLC ไปเล่นเป็นตัวละครในเนื้อเรื่องหลักของเกมได้ ซึ่งผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเลื่อน DLC ให้จบก่อนเพื่อปลดล็อกเขา นอกจากนี้ยังมีการยืนยันด้วยว่า ฉาก Cut Scene ต่างๆ จะมีตัวตนของ Aiden อยู่ในนั้นด้วยหากเราเล่นเขาเป็นตัวละครหลักในเนื้อเรื่อง! ไม่ใช้แค่สามารถนำเขามาเล่นในเนื้อเรื่องได้เท่านั้น แต่ผู้เล่นยังสามารถแต่งตัวให้กับ Aiden ได้เช่นกัน ซึ่งในเรื่องของการแต่งตัวนั้นคุณ Lathieeshe ได้บอกว่า Wrench ที่เป็นตัวเอกของภาคสองเอง ก็สามารถถูกตกแต่งได้เช่นกัน และเขารอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นทั้งสองคนในเวอร์ชันต่างๆ โดยผู้เล่นครับ! Watch Dogs Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนของเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S จะตามาในภายหลังครับ Credit: IGN
20 Oct 2020
ผู้พัฒนาเผย "ไอเทมที่ใช้เงินซื้อใน Watch Dogs Legion จะไม่ช่วยให้เก่งขึ้น"
อีกไม่ถึง 10 วันแล้ว ก่อนที่เราจะได้สัมผัสกับเกม Watch Dogs Legion แต่หลังจากมีข่าวออกมาว่าตัวเกมจะสามารถเล่นแบบ Co-Op ได้แถมยังมีระบบ Microtransaction ด้วย เชื่อว่าหลายคนกำลังกังวลอยู่ว่า "เกมนี้จะ Pay to Win หรือไม่" อยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งผมจะบอกทุกคนว่า "หายห่วงได้เลยครับ" Ubisoft ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับไอเทม Microtransaction แล้ว ซึ่งเหมือนว่าไอเทมทั้งหมดที่เราเอาเงินจริงซื้อได้ จะเป็นเพียงแค่ไอเทมสำหรับตกแต่งอย่างพวกคอสตูม กับหน้ากากเท่านั้น ไม่มีไอเทมที่ช่วยให้สามารถเล่นเกมนี้ได้ง่าย หรือเก่งขึ้นเลย ดังนั้นสำหรับใครที่กลัวว่าจะสู้คนอื่นไม่ได้ในเกมนี้ ถ้าไม่เติมเยอะๆ ก็หายห่วงได้เลยครับ Watch Dogs Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคาม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนของเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S จะตามาในภายหลังครับ Credit: GameRant
20 Oct 2020
Watch Dogs: Legion เล่นได้ 4K/30 FPS หากเปิด RTX บน PS5 กับ Series X
อีกแค่ 10 วันก่อนที่พวกเราจะสามารถเข้าไปกอบกู้ London ใน Watch Dogs: Legion ซึ่งตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X ในภายหลังด้วย แน่นอนว่าหลายคนคาดหวังที่จะได้สัมผัสกับกราฟิกที่สวยงามกว่าบนเครื่องดังกล่าวแน่นอน และวันนี้เราก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าตัวเกมจะรันได้แบบ 4K / 30 FPS เมื่อเปิด RTX On บนเครื่องเจนใหม่ครับ! Lathieeshe Thillainathan ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ได้ยืนยันเรื่องผ่านเว็บไซต์ Reddit ว่าตัวเกมจะเล่นได้แบบ 4K / 30 FPS เมื่อเปิด RTX On บนเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X อย่างไรก็ตามในคอมเมนต์ของโพสต์ดังกล่าว มีหลายคนต้องการจะเล่นเกมนี้แบบ 60 FPS และถามว่าตัวเกมจะมีโหมด Performance ที่ทำให้เกมรันได้ถึง 60 FPS ด้วย หรือไม่แต่คุณ Lathieeshe Thillainathan ไม่ได้ให้คำตอบในส่วนนี้ครับ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคนที่มีเพื่อนจะเล่นเกมนี้บนเครื่องอื่นด้วย ล่าสุดได้มีการยืนยันว่าตัวเกมจะสามารถเล่นแบบ Offline ได้ และที่น่าดีใจขึ้นไปอีกคือตัวเกมจะมีการอัปเดตให้เล่นแบบ Cross-Play ได้ในภายหลังด้วยงานนี้จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่เรากับเพื่อนเล่นกันคนละแพลตฟอร์มครับ ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่าผู้พัฒนาจะมีการอัปเดตคอนเทนต์ Co-Op ตามมาในภายหลัง ดังนั้นระบบ Cross-Play จึงเป็นอะไรที่น่าดีใจสำหรับคนที่จะเล่นเกมนี้กับเพื่อนๆ ครับ เกม  Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt 
19 Oct 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยตัวอย่างพากย์ไทยใหม่ ชวนคุณไปทวงอนาคตคืน!
เมื่อ 3 เดือนก่อน Watch Dogs: Legion ได้ทำการปล่อย Trailer อย่างเป็นทางการครั้งแรก สิ่งที่น่าตกใจคือ Trailer ดังกล่าวนั้นมีเวอร์ชันพากย์ไทยให้เราได้ชมด้วย นับเป็นเกมระดับ AAA เกมแรกๆ เลยที่มีพากย์ไทยใน Trailer ให้เราดู และวันนี้อีกหนึ่งวิดีโอตัวอย่างของเกมที่มีการใช้เสียงพากย์ไทยเพิ่งจะปล่อยออกมาครับ ตัวอย่างใหม่นี้มีชื่อว่า "Watch Dogs: Legion - ตัวอย่างทวงคืนอนาคตของคุณ" โดยวิดีโอนี้ไม่ได้มีการโชว์ Footage เกมเพลย์อะไรมากมายนัก แต่เป็นการบอกเล่าให้เราได้รู้ว่ากลุ่มต่อต้านนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ซึ่งไม่รู้ทำไมเหมือนกันเวลาที่ดูวิดีโอตัวนี้ ตัวผมเองมีความรู้สึกอยากเล่นเกมนี้มากขึ้น แล้วเพื่อนๆ รู้สึกเหมือนกันหรือไม่ครับ? รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC
15 Oct 2020
เผย Spec ในการเล่น Watch Dogs Legion บนเครื่อง PC ปรับสุดต้องใช้ RTX 3080
เผย Spec ความต้องการบนเครื่อง PC ออกมาแล้วสำหรับ Watch Dogs Legion  เกมใหม่จากซีรีส์ Hacker ของผู้พัฒนา Ubisoft ซึ่งต้องยอมรับว่าตัวเกมนั้นค่อนข้างใช้ทรัพยากรเครื่องที่หนักอยู่เหมือนกัน ขนาด Spec ขั้นต่ำของเกมเองยังต้องการความแรงการ์ดจอมากถึง GTX 1650  รวมถึงถ้าใครอยากจะเปิดเทคโนโลยีอย่าง Ray Tracing ตัวเกมต้องการการ์ดจอที่มีความแรงขนาด RTX 3080 เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าหากใครที่ไม่ได้มีจอใหญ่ที่จะต้องเปิดเกมรายละเอียดขนาด 2K - 4K จริงๆ สำหรับคนที่มีคอมพิวเตอร์ระดับกลางก็ยังสามารถเล่นเกมนี้และปรับ High ได้อย่างสบายๆ เพราะตัวเกมต้องการเพียงแค่ Intel Core i7 - 4790 หรือ AMD Ryzen 5 - 1600 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งมาตรฐาน CPU ของชาวไทยที่เล่นเกมกล่องเองก็น่าจะถึงกันหมดทุกคนแน่นอน รวมถึงการ์ดจอยังใช้เพียงแค่ GTX 1060 ซึ่งการ์ดจอหลายๆ คนก็น่าจะอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงนี้เช่นกัน Watch Dogs Legion ในภาคนี้จะดำเนินเรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ณ เมือง London ประเทศอังกฤษ ภายในภาคนี้เราจะได้รับบทเป็นกลุ่ม DeadSec ที่จะต้องรวบรวมพรรคพวกจาก NPC ภายในเมืองในการต่อกรกับเหล่าผู้มีอำนาจ โดยเราสามารถเลือกตัวละครใดในเมืองมาเป็นพวกก็ได้ และพวกเขาก็จะมีความสามารถ สกิลต่างๆ และเรื่องราวที่แตกต่างกันไป โดย Watch Dogs Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงยังลงให้กับเครื่อง PS5 และ Xbox Series X อีกด้วยในเดือนพฤศจิกายน
12 Oct 2020
เกมเพลย์ Watch Dogs: Legion เริ่มทยอยถูกอัปโหลดลง Youtube แล้ว!
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่าย Watch Dogs: Legion ที่จะภาคนี้จะให้รับบทเป็นกลุ่มคนที่ต้องการปฏิวัติเมือง London โดยในตอนนี้ทางสื่อต่างๆ ที่ได้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ก่อนก็ได้เริ่มปล่อยวิดีโอโชว์ Footage เกมเพลย์ออกมาแล้ว ซึ่งบอกก่อนเลยเอาความยาวมารวมกันแล้ว มีความยาวมากกว่า 1 ชม. เลยทีเดียวครับ! เกมเพลย์ส่วนใหญ่ที่ปล่อยออกมานั้น จะเป็นการโชว์เกมเพลย์ในภารกิจที่ใช้ในการชวน NPC ให้เข้ามาเป็นพวกกับเรา ซึ่งการได้เล่นเป็นตัวละครต่างๆ ที่มีความสามารถแตกต่างกันออกไป มันทำให้เกมเพลย์ของ Watch Dogs: Legion ดูมีความน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวครับ ดูวิดีโอเกมเพลย์ต่างๆ ได้ข้างล่างนี้ นอกจากเกมเพลย์ที่ถูกปล่อยออกมาจากทาง Ubisoft เอง และสื่อต่างๆ แล้ว ยังมีการปล่อยอีกหนึ่ง Trailer ตัวใหม่ที่ชื่อ "Watch Dogs: Legion - Story Trailer | PS4" ออกมาด้วย! โดยเรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านวิดีโอนี้จะกล่าวถึง Zero Day และเหตุผลว่าทำไมเมือง London ถึงได้มีสภาพแบบนี้! วิดีโอตัวนี้จะเล่าว่า อยู่ดีๆ ก็มีการระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเมือง และมีผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น ได้ใช้โดรนป่าวประกาศไปทั่วเมืองว่าเป็นฝีมือของเขา ทั้งยังประกาศอีกว่า "วันนี้คือ Zero Day" แถมยังบอกอีกด้วยว่าสิ่งที่เขาทำเป็นความถูกต้อง เพราะการทำลายคือการรักษาเช่นเดียวกัน โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มันเลยทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ ตามมาในภายหลัง รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะทาง Ubisoft ยังปล่อยอีกหนึ่งวิดีโอพูดถึงคอนเทนต์ต่างๆ ที่จะตามมาหลังเกมวางจำหน่าย โดยเรื่องแรกคือโหมด Online ที่จะมาในวันที่ 3 ธันวาคม 2020 ในโหมดนี้ผู้เล่นจะสามารถเล่น Co-Op ได้สูงสุด 4 คน สำรวจเมือง London, ชวน NPC ต่างๆ มาเข้าร่วม รวมไปจนถึงภารกิจใหม่ที่สามารถเล่นหลายคนได้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Dynamic Event ที่จะทำให้การเดินไปตามท้องถนนในเมืองน่าสนุกยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะมีการเพิ่มโหมด PVP ที่ให้เราควบคุมเป็นหุ่นยนต์แมงมุมต่อสู้กันเองด้วย, ภารกิจ Invasion ที่ได้รับความนิยมในเกมภาคก่อนๆ เองก็จะมีให้เล่นในภาคนี้ด้วย แต่สิ่งน่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นตัวละครใหม่จาก DLC ที่กำลังจะตามมาครับ ก่อนหน้านี้เราได้รู้ไปแล้วว่าพระเอกของเกมภาคแรกจะมีบทบาทในภาคนี้ด้วย แต่บอกเลยว่าอีก 3 คนที่เหลือ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยครับ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ! Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ครับ Credit: GameRant
07 Oct 2020
10 เกม PC /Console น่าเล่นประจำเดือนตุลาคม 2020
ตุลาคมถือว่าเป็นอีกหนึ่งเดือนที่เข้าสู่ช่วงเวลาปลายปีอย่างเป็นทางการ ทำให้บรรดาเหล่าค่ายเกมต่างที่จะนำเอาเกมต่าง ๆ ออกมาวางจำหน่าย โดยเฉพาะเกมระดับ AAA ที่เชื่อว่าสามเดือนต่อจากนี้ต้องมีคนหมดตัวแน่นอนและเดือนนี้เพิ่งที่จะเริ่มต้นเท่านั้น สำหรับมหากรรมในการเสียเงินที่จะทำให้คุณเงินหมดไปจนถึงปีหน้า Super Mario Bros. 35  - 1 ตุลาคม แพลตฟอร์ม:  Nintendo Switch  Super Mario Bros. 35 นับว่าเป็นที่สร้างมาเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 35 ปีของคุณลุง Mario พร้อมกับรูปแบบ Free to Play สำหรับคนที่สมัคร Nintendo Switch ออนไลน์ โดยความพิเศษของเกมนี้คือการเปลี่ยนแนวเกมจาก Platformer ธรรมดาสู่เกม Battle Royale ที่ต้องวัดฝีพร้อมกับผู้กับผู้เล่นอื่น ๆ มากถึง 35 คนเลยทีเดียว ตัวเกมมีลูกเล่นหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเสกศัตรูใส่เกมของอีกฝ่าย ไปจนถึงการสร้างอุปสรรคสุดกวน ใครที่อยากจะลองเปลี่ยนแนวจาก Mario เดิม ๆ ที่คุ้นเคยเกมนี้นับว่าน่าลอง Crash Bandicoot 4: Its About Time – 2 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 , Xbox One  ถือว่าเป็นภาคใหม่ล่าสุดในรอบ 22 ปีของซีรีส์ Crash Bandicoot จากทางทีมงาน Naughty Dog เจ้าของเดียวกับ The Last of Us และ Uncharted ที่ในเกม Crash Bandicoot 4: Its About Time เราคงจะยังได้รับเป็น Crash ในการต่อกรกับ Dr . Neo Cortex หลังจากที่สูญหายไปในภาคที่ 3 พวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งทำให้ Crash ต้องออกไปแก้ไขสถานการณ์พร้อมกับตัวละครใหม่อย่าง Coco อีกด้วย รูปแบบของเกมจะยังคงเสน่ห์ของความคลาสิคผสมกับการนำเสนอใหม่ ๆ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น สนุกยิ่งขึ้นพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เราได้เล่นตัวละครที่หลากหลายอีกด้วย ดังนั้นแฟน ๆ ของเกมนี้อุ่นใจได้ว่าเกมในความทรงจำวัยเด็กของเราต้องกัลบมายอดเยี่ยมอย่างแน่นอน Star Wars: Squadrons - 3ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One สงครามอวกาศกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของเกมขับยานรบสู้กันใน Star Wars: Squadrons ที่ว่าด้วยเรื่องราวของกองยานรบของฝ่าย Republic และ Empire ที่ต้อสู้กันอย่างกล้าหาญเพื่อที่จะแย่งชิงความเป็นหนึ่งในห้วงจักรวาลนี้ ตัวเกมมีระบบต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายทั้งไม่ว่าจะเป็นระบบการแพ้ชนะกันของยานรบ ระดับการปรับแต่งยานรบ ไปจนถึงการตกแต่งห้องนักบินที่สามารถทำได้อย่างอิสระ ใครที่ชอบการ Dogfight เกมนี้นับว่าน่าโดน Blaston – 8 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC (VR)  Blaston นับว่าเป็นหนึ่งในเกม VR ที่น่าสนใจด้วยการผสมกันระหว่างเกมแนว Shooting แบบ Cowboy ร่วมกับเกมประเภท VR ทำให้รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะสนุกมาก ๆ เพราะเราจะต้องยิงอีกฝ่ายให้โดนในขณะเดียวกันเราก็ต้องหลบกระสุนต่าง ๆ ให้ดี ตัวเกมเองก็มาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามและเสียงดนตรีที่โดนใจ หากใครกำลังหาเกมแนว VR อยู่ก็ขอแนะนำเกมนี้ The Uncertain: Light at the End - 8 ตุลาคม แพลตฟอร์ม : PC The Uncertain: Light at the End คือเกมอินดี้ที่น่าสนใจมากเกมหนึ่งในเวลานี้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ในยุคหลังอารยธรรมลุ่มสลาย ที่โลกของเราถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ ตัวเกมนำเสนอในความเป็นเกมแนวรอบเร้นผสมกับการไขปริศนาที่แยบยล ทำให้คุณต้องปวดหัวและเนื้อเรื่องที่กินใจ พร้อมกับดนตรีประกอบที่ยอดเยี่ยม ถ้าหากพอจะมีเวลาว่างก็แนะนำเกมนี้เลย FIFA 21 - 9 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One สุดยอดเกมกีฬาฟุตบอลขวัญใจมหาชนคงหนีไม่พ้นเกมตระกูล FIFA ที่ในปีนี้ก็ส่งเกมประจำปีออกมา โดยในภาคใหม่นี้ทาง EA ได้พัฒนาเกมให้ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน อย่างเช่นระบบ Career Mode ที่ได้รับการนำกลับมาพัฒนาในดีขึ้น ระบบการเล่นที่ได้มีการเพิ่มในส่วนของการเลี้ยงและการเคลื่อนที่ให้มากขึ้น ทีท่าในการเล่นหลากหลายมาขึ้น ที่สำคัญที่สุดเกม FIFA 21 ยังได้พัฒนากราฟิกของเกมให้ดีขึเนกว่าภาคเดิมอีกด้วย ใครเป็นสาวกของกีฬาฟุตบอลก็ลองหามาเล่นได้ Transformers: Battlegrounds – 23 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One, Nintendo Switch  BUMBLEBEE และเหล่า Autobots ต้องเปิดศึกกับเหล่า Decepticon อีกครั้งในเกม Transformers: Battlegrounds ที่รอบนี้มาในรูปแบบเกม Turn-Base กับกราฟิกแบบการ์ตูน ตัวเกมเน้นการวางแผนในการบังคับบัญชาหุ่นยนต์ต่าง ๆ ในการต่อกรกับเหล่าร้ายตั้งแต่ดาวโลกไปจนถึง Cybertron ตัวเกมมีระดับความยากที่หลากหลายอีกทั้งยังรองรับการเล่นแบบ Co-Op อีกด้วย ใครที่เป็นสาวกของการ์ตูนเรื่องนี้ห้ามพลาด 8.Ghostrunner – 27 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One หนึ่งในเกมที่ใครหลายคนจับตามองในปลายเดือนนี้ Ghostrunner เป็นเกมแนว FPS ในโลกแบบ Cyberpunk ที่เราจะต้องออกไปต่อกรกับ Mara the Keymaster ผู้ปกครองท้องถนนด้วยกำปั้นเหล็กและความรุนแรง ทำให้ตัวเอกต้องออกมาทวงความยุติธรรมด้วยดาบของเขา ตัวเกมเน้นการผสมผสานกันระหว่างเกมอย่าง Mirror Edge กับเกม Dishonor ที่เราจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระราวกับการ Free Running พร้อมกับการออกท่าที่หลากหลาย ใครที่ชอบเกมแนวนี้และธีมโลกแบบ Cyberpunk ก็แนะนำเกมนี้เลย Watch Dogs Legion  – 29 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One , Stadia หลังจากเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วในที่สุดวันที่เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกรอคอยก็มาถึง Watch Dogs Legion ว่าด้วยเรื่องราวของการปลดแอกเมือง London จากเหล่าผู้ปกครองอันแสนชั่วร้ายในฐานะของกลุ่มต่อต้านนามว่า DedSec  โดยตัวเอกของเกมนี้จะไม่ได้มีแบบสำเร็จรูปแต่จะเป็นชาวเมืองที่เราไปเกณฑ์มา ซึ่งแต่ละคนจะมีความสามารถที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า การยิงปืนไปจนถึงการ Hack นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายให้เราได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ซื้อแล้วคุ้มมาก ๆ The Dark Pictures Anthology: Little Hope – 30 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One  ปิดท้ายกันด้วยเกมสยองขวัญแห่งเทคกาลฮาโลวีนกับ The Dark Pictures Anthology : Little Hope ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กมหาลัย 4 คนและอาจารย์ได้เดินทางไปยังเมืองแห่งหนึ่งห่างไกลความเจริญ อันเต็มไปด้วยเรื่องราวปริศนาและความสยองที่พวกเขาจะไม่ลืมไปเลยตลอดทั้งชีวิต พร้อมกับระบบทางเลือกที่ตัดสินใจผิดชีวิตอาจจะเปลี่ยน สำหรับเกมนี้นอกจากนี้คุณจะสยองขวัญเองแล้ว คุณยังพาเพื่อนมาเล่นด้วยกันได้ เพราะเกมนี้รองรับการเล่นพร้อมกับมากถึง 5 คนเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งเกมสยองที่คุณควรลอง
02 Oct 2020
ซื้อการ์ดจอซีรีส์ 30 จากทาง Nvidia วันนี้ รับ Watch Dogs: Legion ไปเลยฟรีๆ !
การ์ดจอตัวรองท็อปซีรีส์ใหม่ RTX 3080 จากทาง Nvidia เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ โดยในช่วงปลายเดือนนี้ และเดือนหน้าจะเป็นคิวของ 3090 และ 3070 ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งนอกจากจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว ดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับโปรโมชั่นดีๆ ด้วยครับ ล่าสุดได้มีการประกาศว่า ใครก็ตามที่ซื้อการ์ดจอสามรุ่นดังกล่าวก่อนวันที่ 29 ตุลาคม จะได้รับเกม Watch Dogs: Legion ไปเลยฟรีๆ ด้วย! ทาง Nvidia ได้ทำการปล่อยภาพใหม่ที่บอกว่า ใครก็ตามที่ซื้อการ์ดจอสำหรับเครื่องคิวพิวเตอร์ตัว RTX 3090, 3080 หรือ 3070 ก่อนวันที่ 29 ตุลาคม จะได้รับเกม โค้ดเกม Watch Dogs: Legion ไปเลยฟรีๆ (โค้ดเกมที่ได้จะหมดอายุในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2020) งานนี้บอกเลยว่าใครตั้งใจจะซื้อการ์ดจอใหม่มาเพื่อเล่นเกมนี้โดยเฉพาะโอกาสนี้ห้ามพลาดครับ
17 Sep 2020
Watch Dogs: Legion เผยความต้องของระบบเวอร์ชั่น PC ในทุกระดับกราฟิก!!
Watch Dogs: Legion ของ Ubisoft เป็นหนึ่งในเกมที่มีแฟนๆ ติดตามและรอคอยอยู่มาก ในตอนนี้ผู้พัฒนาก็เผยข้อมูลที่แฟนๆ ชาว PC รอคอยออกมาแล้วครับ นั่นคือความต้องของระบบ PC สำหรับเกมนี้นั่นเอง ตัวเกม Watch Dogs: Legion มีการตั้งค่ากราฟิกที่พิเศษกว่าหลายๆ เกมครับ เพราะมันสามารถตั้งค่าความละเอียดแบบ 1080p ในระดับกราฟิกต่ำไปจนถึงความละเอียดแบบ 4K ได้ รวมถึงการตั้งค่ากราฟิกแบบพิเศษด้วย สามารถดูความต้องการของระบบได้ด้านล่างครับ 1080p / Low Settings CPU: Intel Core i5-4460 / AMD Ryzen 5 1400 GPU: NVIDIA GeForce GTX 960 or AMD Radeon R9 290X VRAM: 4 GB RAM: 8 GB Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) 1080p / High Settings CPU: Intel Core i7-4790 / AMD Ryzen 5 1600 GPU: NVIDIA GeForce GTX 1060 or AMD Radeon RX 480 VRAM: 6 GB RAM: 8 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) 1440p / High Settings CPU: Intel Core i7-7700K / AMD Ryzen 5 2600 GPU: NVIDIA GeForce RTX 2060S or AMD Radeon RX 5700 VRAM: 8GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) 4K / Ultra Settings CPU: Intel Core i7-9700K / AMD Ryzen 7 3700K GPU: NVIDIA GeForce RTX 2080 Ti or AMD Radeon VII VRAM: 11 GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB (+ 20 GB HD Textures Pack) Operating System: Windows 10 (x64) Ray Tracing On – 1080p / High Settings CPU: Intel Core i5-9600K / AMD Ryzen 5 3600 GPU: NVIDIA GeForce RTX 2070 VRAM: 8 GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) Ray Tracing On – 4K / Ultra Settings CPU: Intel Core i7-9700K / AMD Ryzen 7 3700X GPU: NVIDIA GeForce RTX 2080 Ti VRAM: 11 GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45GB (+20 GB HD Textures Pack) Operating System: Windows 10 (x64) Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม สำหรับเครื่อง Xbox One, PlayStation 4, PC และ Google Stadia นอกจากนี้ในวันที่ 10 พฤศจิกายน จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 พฤศจิกายน สำหรับเครื่อง Xbox Series S กับ Xbox Series X ส่วนของเครื่อง PlayStation 5 ยังไม่มีกำหนดครับ Credit: Gamingbolt
16 Sep 2020
Watch Dogs Legion ปล่อยเทรลเลอร์เกมเพลย์ใหม่ พร้อมการกลับมาของ Aiden Pearce!
จัดงาน Ubisoft Forward กันทั้งที มีหรือที่ผู้พัฒนาขวัญใจมหาชนจะไม่ขนเอาเกมที่ทุกคนเฝ้ารออย่าง Watch Dogs: Legion มาอวด! โดยตัวอย่างเกมเพลย์ใหม่ล่าสุดครั้งนี้ นอกจากจะทำการอธิบายถึงระบบการชักชวน NPC เข้ามาเป็นพวกแล้ว ยังมีการแสดงอุปกรณ์และอาวุธเท่ๆ มากมายที่เราสามารถมอบให้กับตัวละครของเราอีกด้วย! นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนายังมีเซอร์ไพรส์พิเศษสำหรับแฟนๆ ของเกมภาคแรก ด้วยการประกาศการกลับมาของตัวเอก Aiden Pearce ในฐานะตัวเอกของ DLC เนื้อเรื่องที่จะปล่อยออกมาหลังจากที่เกมวางจำหน่ายนั่นเอง! Watch Dogs: Legion มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 29 ตุลาคมนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC และจะมีสนับสนุนการเล่นบนคอนโซล PS5, Xbox Series X ด้วย
10 Sep 2020
Watch Dogs: Legion โชว์วิดีโอตัวอย่างใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย RTX !!
เทคโนโลยีด้านความชัดของภาพอย่าง Ray-tracing คงจะไม่เกิดขึ้นในอนาคตกับ Watch Dogs: Legion หากไม่มีการ์ดจอจากค่าย Nvidia ด้วยขุมพลังของ RTX ทำให้ภาพออกมาสมจริงได้อย่างที่ทีมพัฒนาเกมหวังจะให้เป็น !! หลังจากเราได้เห็นตัวอย่างของเกม Watch Dogs: Legion มามากมายแฟนๆ ต่างตื่นเต้นในเรื่องของภาพที่สมจริงไม่ว่าจะเป็น แอ่งน้ำหลังฝนตก หรือแม้แต่เส้นแสงในเกม ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยม สภาพแวดล้อมต่างๆ ในเกมถือว่าดูสมจริงสุดๆ สามารถรับชมวิดีโอภาพสวยๆ ได้ที่ข้างล่างนี้เลย Watch Dogs: Legion จะพร้อมให้ทุกคนเข้าสู่นครลอนดอนในวันที่ 29 ตุลาคม ปี 2020 นี้บนเครื่อง Xbox One, PS4, Google Stadia และ PC สำหรับเครื่อง Xbox Series X กับ PS5 ต้องรอการประกาศรายละเอียดอีกครั้ง และจะสามารถเล่นตัวเกมที่ความละเอียดคมชัดสูงสุดที่ 4K ได้อีกด้วย Credit: Gamingbolt
02 Sep 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยเกมเพลย์ใหม่ออกมาให้แฟนๆ ได้ดูกันแล้ว!
อย่างที่เคยเห็นในเกมเพลย์ของ Watch Dogs: Legion เราจะเห็นได้ว่าเกมเพลย์และตัว NPC ของเกมนี้น่าสนใจและมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาก อีกทั้งในเกมเพลย์ล่าสุดที่ตัวเกมได้ปล่อยออกมานั้นพวกเขาได้มุ่งเน้นไปที่ภารกิจหนึ่งซึ่งมันมีความน่าสนใจมากครับ ครั้งนี้พวกเขามุ่งเน้นไปที่คนเลี้ยงผึ้งและภารกิจรับสมัครคนของเธอ คนเลี้ยงผึ้งนี้มีความสามารถพิเศษที่น่าสนใจมากเนื่องจากเธอสามารถยิงฝูงผึ้งนาโนเทคใส่ศัตรูได้ จากในภารกิจของเธอนั้นผู้เล่นจะได้รับมอบหมายให้ทำลายข้อมูลการวิจัยที่ Albion ขโมยไป ซึ่งคนผู้นี้คือตัวร้ายหลักของเกม Watch Dogs: Legion ครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายบน PlayStation 4, Xbox One, PC และ Google Stadia ในวันที่ 29 ตุลาคม ส่วนเวอร์ชั่น PlayStation 5 กับ Xbox Series X จะให้บริการในวันที่ตัวเครื่องวางจำหน่าย Credit: Gamingbolt
31 Aug 2020
Sony เผยดีไซน์กล่องเกมใหม่ของ Ubisoft สำหรับเวอร์ชั่น PS5
Amazon ได้สร้างรายการสำหรับเกมที่กำลังจะวางจำหน่ายบนเครื่อง PS5 และมันมีสามเกมใหญ่ที่มาจากค่าย Ubisoft อยู่ด้วย ที่สำคัญนี้คือครั้งแรกที่เราได้เห็นกล่องเกมเวอร์ชั่น PS5 ของทั้งสามเกมนี้อย่างเป็นทางการด้วยครับ ซึ่งทั้งสามเกมที่กล่าวถึงข้างต้นนั้นแน่นอนว่าต้องเป็น Assassins Creed Valhalla, Watch Dogs: Legion และ Far Cry 6 โดยทั้งสามเกมนี้ขายในราคา 59.99 ดอลลาร์ (1,870 บาท) แต่ที่น่าสนใจคือ Amazon ยังขายสามเกมนี้สำหรับเวอร์ชั่น PS4 ในราคาที่ถูกกว่าเวอร์ชั่น PS5 อีกด้วย โดยขายอยู่ที่ 49.94 ดอลลาร์ (1,550 บาท) ถ้าหากใครต้องการเล่นเกมเหล่านี้บนเครื่อง PS5 แต่อยากประหยัดก็สามารถซื้อเกมเวอร์ชั่น PS4 ได้ เพราะมันสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น PS5 ได้ฟรีนั่นเอง Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม ส่วนเกม Assassins Creed Valhalla วางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤศจิกายน นอกจากนี้ Far Cry 6 จะวางจำหน่ายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2021 โดยทั้งสามเกมนี้จะลงให้กับเครื่อง PS5, Xbox Series X, PS4, Xbox One, PC และ Google Stadia [gallery type="grid" columns="4" ids="64521,64522,64523"] Credit: Gamingbolt
17 Aug 2020
รวมรายชื่อ 5 เกมน่าเล่น ที่เตรียมวางจำหน่ายในปีนี้!
แปบเดียวก็ผ่านไปเกือบ 8 เดือนแล้วกับปี 2020 นี้ แต่ท่ามกลางปัญหามากมายที่ถาโถมเข้าใส่มนุษย์ทั่วโลกตลอดครึ่งปีแรกของปีนี้ ปี 2020 ก็เป็นปีที่เกมเมอร์อย่างเราได้มีโอกาสสัมผัสเกมอันยอดเยี่ยมไปแล้วมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Final Fantasy 7 Remake, The Last of Us Part II, หรือ Ghost of Tsushima ยิ่งเป็นปีที่เครื่องเกมคอนโซลเจนใหม่กำลังจะวางจำหน่ายแบบนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าหากว่าจะมีเกมอีกมากมายที่น่าสนใจ ออกตามมาอีกมากมายในช่วง 4 เดือนท้ายของปีนี้ เชื่อว่าหลายคนคงมีเกมที่ตัวเองอยากเล่นมากๆ อยู่ในดวงใจกันหมดแล้ว แต่บางครั้งการเฝ้ารออะไรบางอย่าง แบบใจจดใจจ่อ ก็อาจทำให้ลืมไปว่าปีนี้ยังมีเกมอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนนึกออกว่ายังมีเกมอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจ และกำลังจะออกในปีนี้ โดยผมได้รวบรวมเกมเด่นๆ 5 เกมในดวงใจของผม ที่เตรียมจะวางจำหน่ายในช่วงไม่กี่เดือนที่เหลืออยู่ของปีนี้ จะมีเกมอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยครับ! Cyberpunk 2077 ถ้าหากพูดถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่ตอนนี้กำลังมาแรงสุดๆ คงไม่ใช่เกมไหนนอกจาก Cyberpunk 2077 ผลงานการพัฒนาของค่าย CD Projekt Red ผู้สร้างชื่อเสียงโด่งดังมาแล้วใน The Witcher 3: Wild Hunt เนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึงโลกในยุคอนาคตที่เทคโนโลยีก่าวหน้าไปอย่างมาก มีรถบินบนท้องฟ้า ผู้คนดัดแปลงร่างกายตัวเองจนสามารถมีอายุได้เป็นร้อยปี แต่ความเป็นมนุษย์ของคนกลับน้อยลง ตัวเกมถูกดัดแปลงมาจาก "Cyberpunk 2013" บอร์ดเกมที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1988 ทำให้เกมนี้มีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ทางเรา GameFever ได้มีการทำบทสรุปเรื่องราวต่างๆ ของเกมนี้ไว้แล้ว สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ แตกต่างจากก่อนหน้านี้ เพราะ Cyberpunk 2077 จะใช้มุมมองในการเล่นแบบ FPS ทั้งเกม ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่เราเห็น CD Projekt Red สร้างเกมด้วยมุมกล้องแบบนี้ โดยทางผู้พัฒนาได้ออกมาเคลมว่า มุมมอง FPS จะทำให้เราเล่นเกมนี้ได้สนุกที่สุด นอกจากนี้ยังมีการยืนยันอีกด้วยว่าตัวเกมจะสามารถสำรวจในแนวดิ่งได้ด้วย มันหมายความว่าตึกทั้งหมดภายในเกม ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปสำรวจในแต่ละชั้นได้เลย นอกจากนี้ตัวเกมยังเปิดให้เราสามารถสร้างตัวละครได้อย่างอิสระ ถึงขนาดปรับแต่งอวัยวะของ ตัวละครได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ดูเหมือนว่าฉาก 18+ ในเกมก็ยังจะใช้มุมกล้องแบบ FPS ด้วย งานนี้ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ที่ไม่เคยพบในเกมไหนมาก่อนเลยก็เป็นได้ครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Path of Exile 2 ถ้าหากพูดถึงเกม Online แนว Hack and Slash ผสม Rogue-like ภาพของ Diablo คงจะขึ้นมาในหัวใครหลายคน แต่จริงๆ แล้วโลกนี้ยังมีอีกหนึ่งเกมที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ชื่อว่า Path of Exile จากทาง Grinding Gear Games ซึ่งในช่วงปลายปีที่แล้ว ได้มีการประกาศเปิดตัว Path of Exile 2 ที่มีการอัพเกรดคุณภาพของกราฟิกให้สวยงามกว่าเดิม พร้อมทั้งเพิ่มระบบใหม่ๆ อาชีพใหม่ๆ รวมถึงสกิลใหม่ๆ เข้ามาอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ผู้เขียนอยากสัมผัสมากๆ ของปีนี้เลยครับ Path of Exile เปิดให้เล่นครั้งแรกในปี 2013 แรกเริมเดิมที่เกมนี้ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากมายนัก แต่หลังจากที่ได้คุณ David Brevik หัวหน้าทีมพัฒนา Diablo 2 เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาในปี 2016 ตัวเกมก็เริ่มมีกลิ่นอายของ Diablo มากขึ้น และมีความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคอนเทนต์ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้เล่นทุก 13 อาทิตย์, ทั้งการปรับบาลานซ์จนทำให้ไม่มีอาชีพ หรือสกิลไหนโกงจนเกินไป ถ้าบอกว่า POE คือเกมแนว Hack and Slash ผสม Rogue-like ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกตอนนี้ คิดว่าคงไม่ใช้เรื่องที่เกินจริงเลยครับ ดังนั้นการมาของ Path of Exile 2 จึงเป็นอะไรที่ทำให้ ผู้เขียนรู้สึกตื่นเต้นมากครับ Path of Exile 2 จะเปิดช่วง Beta ให้เล่นช่วงปลายปีนี้ Assassins Creed Valhalla ภาคต่อของซีรีส์เกมนักฆ่าที่อยู่คู่วงการมาอย่างยาวนานอย่าง Assassins Creed กำลังจะกลับมาให้เราได้สัมผัสกันอีกครั้งช่วงปลายปีกับ Assassins Creed Valhalla ตัวเกมจะพาเราย้อนไปยุคของเหล่าไวกิ้ง โดยทางผู้พัฒนาเคยบอกว่าภาคนี้ จะเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างในเนื้อเรื่องของตัวเกมภาคเก่าๆ กับภาคใหม่ที่หายไปด้วย ล่าสุดในงาน Ubisoft Forward ก็มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ความย่าวกว่า 30 นาที ออกมาด้วย งานนี้บอกได้คำเดียวว่าแฟนๆ Assassins Creed ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ! ถึงแม้ว่าเกมภาคนี้จะยังใช้ระบบ RPG เหมือนกับ Origin และ Odyssey แต่ทางผู้พัฒนาได้ยืนยันว่า Assassins Creed Valhalla จะมีการนำระบบ "Instant-Kill Hidden Blade" ของภาคเก่าๆ กลับมาด้วย เรียกได้ว่าแฟนเกมยุคใหม่ หรือยุคเก่าก็น่าจะสามารถสนุกไปกับ Assassins Creed ภาคใหม่นี้ได้ครับ นอกจากนี้ด้วยความที่ผู้พัฒนาเคยบอกว่า เนื้อเรื่องของภาคนี้จะช่วยเชื่อมช่องว่างเนื้อเรื่องที่หายไปด้วยแล้ว มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นจุดเชื่อมโยงระหว่าง Layla Hassan ตัวเอกคนใหม่ที่มาแทนที่ Desmond Miles ที่ตายไปแล้วในภาคนี้ด้วยก็เป็นได้ คงต้องรอดูพร้อมกันปลายปีนี้ครับ Assassins Creed Valhalla จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X, และ PC Watch Dogs: Legion หลังจากที่ประกาศวางเลื่อนวันวางจำหน่ายไปในช่วงปลายปี 2019 ในที่สุด Watch Dog: Legion ก็ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในงาน Ubisoft Forward เนื้อเรื่องของภาคนี้จะกล่าวถึง เมืองลอนดอนที่กำลังจะถูกยึดไปโดยกลุ่มคนประสงค์ร้าย เราจึงจำเป็นต้องทวงเมืองนี้กลับคืนมา นอกจากนี้ทาง Ubisoft ประเทศไทย ได้มีการปล่อย Trailer ของเกมเวอร์ชั่นพากย์ไทยออกมาด้วย ทำให้เป็นไปได้ว่าในเกมนี้ เราอาจปรับเสียงตัวละครเป็นภาษาไทยได้ด้วยครับ ด้วยความที่เนื้อเรื่องของภาคนี้จะ กล่าวถึงการประท้วง และปฏิวัติ ทำให้เราสามารถนำ NPC เกือบทั้งหมดที่เดินอยู่ตามท้องถนน มาเป็นส่วนหนึ่งกับทีมปฏิวัติได้ คำว่าเอามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมในที่นี้ ไม่ได้หมายนถึงเอาเข้ามาเพื่อเพิ่มจำนวนให้ดูเยอะเฉยๆ แต่เราจะสามารถบังคับ NPC ตัวนั้นได้เลย แน่นอนว่าแต่ละตัวจะมีความสามารถแตกต่างกันไป บางตัวอาจแฮกโดรนได้, บางตัวอาจะยิงปืนเก่งมาก, หรือบางตัวอาจถนัดสู้ระยะประชิด ซึ่งมันทำเกมเพลย์ของภาค Leion ดูน่าสนใจมาก เพราะหมายความว่า แต่ละภารกิที่เราจะได้เล่นในเกมนี้ จะมีวิธีในการผ่านหลากหลายมาก จะบุคเข้าไปแบบตรงๆ หรือ อาจจะลักลอบเข้าไปแทน ก็สามารถทำได้ อยู่ที่ผู้เล่นเลยว่าอยากจะเล่นแบบไหนครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ครับ Mortal Shell ในปีนี้เราได้สัมผัสกับเกมแนว Dungeon Crawler สุดยากอย่าง Nioh 2 กันไปแล้ว ต้องบอกเลยว่าเกมนี้ ยากสมใจผู้เขียนเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่รู้ว่า Elden Ring เกมใหม่จากทาง FromSoftware จะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ แต่ปีนนี้ยังมีเกมแนวเดียวกันที่น่าสนใจจะวางจำหน่ายอยู่ด้วย ชื่อว่า Mortal Shell ครับ แม้ว่าตอนนี้จะยังมีข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้ไม่มากนัก แต่ก็มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ออกมาแล้ว ซึ่งดูน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ จุดที่น่าสนใจมากๆ ของ Mortal Shell เห็นจะเป็นในเรื่องของระบบเกมเพลย์ครับ โดยเฉพาะระบบที่เมื่อเลือดของเราหมดในเกมนี้ตัวละครของเราจะยังไม่ตาย หากแต่กระเด็นออกจากชุดเกราะเท่านั้น ผู้เล่นจะได้รับโอกาส ในการสู้เพื่อเอาตัวรอดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายจริงๆ และเหมือนว่าในร่างก่อนตายนั้น จะมีความสามารถพิเศษให้ใช้ได้ด้วย แบบนี้คิดว่าเวลาสู้กับบอสในเกมนี้จะต้องตื่นเต้นมากอย่างแน่นอน  อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคงจะเป็นในเรื่องของกราฟิกที่ดูสวยงามมากๆ และนี้คงเป็นเกมแนว Dungeon Crawler แบบยากมากเกมสุดท้ายของปีนี้แล้ว ดังนั้นผู้เขียนเลยรู้สึกตื่นเต้น บวกคาดหวังเป็นพิเศษครับ Mortal Shell จะวางจำหน่ายในเดือน กันยายน นี้บนเครื่อง PC เท่านั้น แน่นอนว่าเกมที่น่าสนใจไม่ได้มีแค่ 5 เกมข้างต้นเท่านั้น ยังมีเกมอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย ไม่ว่าจะเป็น Godfall, Outriders, Yakuza: Like a Dragon, Marvels Avengers, Destiny 2: Beyond Light หรือ Halo Infinite ทาง GameFever มีกำหนดจะปล่อยรีวิวของหลายเกมที่มีชื่อในบทความนี้ด้วย แล้ว 5 ในดวงใจของเพื่อนมีอะไรบ้างคอมเม้นต์แชร์กันหน่อยครับ!
30 Jul 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่เปิดประสบการณ์การก่อกบฏ
จากที่เราได้ทราบข่าวของตัวเกมอย่าง Watch Dogs: Legion ที่จะวางจำหน่ายภายในปีนี้ พร้อมกับคำกล่าวของผู้พัฒนาที่จะมอบประสบการณ์สุดน่าตื่นเต้นในเมืองลอนดอนพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้ทุกตัวละคร โดยแต่ละตัวละครก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสาย ซึ่งตัวเกมได้เปิดเผยกลไกลที่น่าสนใจมากมายผ่านวิดีโอเทรลเลอร์ภายในงาน Xbox Games Showcase     สิ่งที่น่าสนใจภายในวิดีโอเทรลเลอร์เราได้เห็นสภาพของเมืองลอนดอนที่กลายเป็นหายนะสุดวุ่นวายจากการต่อต้านภายในเมือง รวมไปถึงโชว์ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของผู้คนในเมืองที่มีความสามารถแตกต่างกัน อย่างเช่น เหล่าแฮ็คเกอร์ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทคบวกด้วยความแฟนซีอีกหนึ่งอย่างที่เราได้เห็นในวิดีโอเทรลเลอร์นี้คือ รถของสายลับที่ไฟหน้ามีการแอบซ่อนมิสไซล์เอาไว้ และเรียกออกมาใช้ยิงได้ สามารถรับชมวิดีโอเทรลเลอร์ได้ที่ข้างล่างนี้     Watch Dogs: Legion จะพร้อมให้ทุกคนได้เข้าสู่เมืองแห่งการก่อกบฏในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One, PC และ Stadia สำหรับเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X คาดว่าจะมาในปีถัดไปเพื่อรอการพัฒนาตัวเกมไปก่อน       Credit: Gamingbolt 
24 Jul 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยรายละเอียดตัว Special Edition ทั้งสามแบบ!
เกมระดับ AAA ทั้งหลายนั้นมักจะมาพร้อมกับ Special Edition มากมายอย่าง Limited Edition, Gold Edition เสมอ แน่นอนว่า Watch Dogs: Legion จาก Ubisoft ก็เป็นเช่นเดียวกันครับ ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Ubisoft ได้ประกาศรายละเอียดของเซต Edition ทั้งหลายที่กำลังจะมา ซึ่งนอกจากตัวเกมพื้นฐานแล้วยังมีตัวเลือกอีกสามแบบให้ผู้เล่นได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของกัน ในแต่ละ Edition จะมี Season Pass สำหรับตัวเกม โดยมันจะมีเนื้อหาใหม่ๆ เนื้อเรื่องเพิ่มเติม รวมถึงภารกิจพิเศษและตัวละครที่เล่นได้อีก 4 ตัว ยิ่งไปกว่านั้นตัว Season Pass ยังจะมอบ Watch Dogs ภาคแรกให้ฟรีอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดของตัว Gold, Ultimate และ Collectors Edition ได้จากภาพด้านล่างครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายให้กับ PS4, Xbox One, PC และ Google Stadia ในวันที่ 29 ตุลาคม โดยจะให้บริการบน PS5 และ Xbox Series X ในปลายปีนี้ พร้อมกับสามารถอัปเกรดเป็นรุ่นถัดไปได้ฟรี! [gallery columns="4" type="grid" ids="61160,61161,61162,61163"] Credit: Gamingbolt
14 Jul 2020
งาน Ubisoft Forward ครั้งที่สองจะจัดในปลายปีนี้!
บริษัทเกมต่างๆ อย่าง Sony, Microsoft และ EA ได้เปลี่ยนมานำเสนอเกมแบบออนไลน์แทนที่งาน E3 เนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 แน่นอนว่า Ubisoft ก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน โดยงานของเขามีชื่อว่า Ubisoft Forward ที่เพิ่งจบไปเมื่อคืนนี้ แต่ว่าในงาน Ubisoft Forward ที่จัดเมื่อคืนนั้นเราแทบไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ เท่าไหร่นัก เพราะงานนี้เน้นไปที่การโชว์เกมเพลย์ของ Assassin Creed Valhalla และเทรลเลอร์ของ Watch Dogs Legion ที่มาแสดงภาพภายในเกมและระบบการเล่นที่น่าสนใจ แต่นอกจากสองเกมนี้ที่ได้โชว์อย่างเต็มที่ เกมที่แฟนๆ รอคอยอย่าง Far Cry 6 กลับไม่ได้โชว์อะไรมากนัก งานก็ได้จบลงเสียก่อนและกลายเป็นการโชว์เจาะลึกเกมเพลย์ของ Valhalla แต่ก็ไม่ต้องเสียดายไปนักที่ไม่เราไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ มากกว่านั้น เพราะว่า Yves Guillemot ผู้บริหารของ Ubisoft ได้กล่าวว่างาน Ubisoft Forward ครั้งที่สองนั้นจะมีหลายๆ อย่างอีกมากมาย และจะนำเสนอข่าวเกมและการอัพเดท โดยงาน Ubisoft Forward จะจัดงานอีกครั้งในปลายปีนี้ Credit: Gamerant
13 Jul 2020
Watch Dogs Legion ปล่อย Cinematic พากย์ไทย !!
พึ่งประกาศวันวางจำหน่ายออกมาสดๆ ร้อนๆ ของเกม Watch Dogs Legion นั่นคือวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้ และล่าสุดทาง Ubisoft Thailand ทำการเอาใจแฟนๆ ชาวไทย ปล่อยตัวอย่าง Cinematic ชื่อว่า Tipping Point พร้อมทั้งยังใส่พากย์ไทยและตัวอักษรภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย (สามารถรับชมคลิปได้ทางด้านล่าง) โดยผลงานตัวอย่างนี้ เป็นฝีมือของคุณ Alberto Mielgo ผู้กำกับดีกรีรางวัลชนะเลิศงานเอ็มมี่ อวอร์ด ซึ่งตัวเขานั้นเคยฝากฝังผลงานซีรีส์แอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Love, Death & Robots ของทาง Netflix มาแล้ว Watch Dogs Legion จะเล่าเรื่องราวของประชาชนที่รวมตัวกันกลายเป็นผู้ปฏิวัติเพื่อต่อต้านเหล่าผู้มีอิทธิพลภายในเมือง London
12 Jul 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อย Trailer ใหม่โชว์เกมเพลย์ และภาพสุดอลังการ!
เรียกได้ว่าหายกันไปนานเลยกับข่าว Watch Dogs: Legion ต้องขอบคุณงาน Ubisoft Foward ที่ทำให้เราได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับเกมนี้ ที่น่าใจก็คือในวิดีโอที่ปล่อยออกมาในไลฟ์สตรีมครั้งนี้ ยังโชว์ให้เราเห็น Footage รวมไปจนถึงเกมเพลย์ ของเกมนี้มากมายเลยด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ในวิดีโอที่ปล่อยออกมาได้บอกให้เรารู้ว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้จะเกิดขึ้นที่เมือง ลอนดอน รวมถึงมีการเปิดตัว Mary Kelly ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวร้ายสำคัญของภาคนี้ แต่ส่วนที่น่าสนใจคงไม่พ้นเกมเพลย์ของตัวละครต่างๆ ที่เราจะสามารถเล่นได้ในภาคนี้ ทั้งยังมีการโชว์ความสามารถของตัวละครดังกล่าวอีกด้วย เรียกได้ว่าใครรอเกมนี้อยู่ห้ามพลาดครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ครับ
12 Jul 2020
Ubisoft Forward เผยสิ่งที่จะนำมาโชว์ในงาน !! พร้อมประกาศแจก Watch Dogs 2 ฟรี!
งาน Ubisoft Forward ที่กำลังจะจัดขึ้นของ Ubisoft ในเช้าวันที่ 13 กรกฏาคม (หรือคืนวันที่ 12) นั้นได้ยืนยันเกมที่จะมีในงานแล้วจากทีเซอร์ที่ออกมา แต่ว่าตารางงานมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนั่นคือช่วง Pre-Show ได้ปรับเวลาลงมา 30 นาทีจาก 01:00 น. เป็น 00:30 น. รวมถึงเรายังสามารถรับเกม Watch Dog 2 ฟรีแบบถาวรอีกด้วย ซึ่งในช่วง Pre-Show นี้จะมีการเปิดเผยรายละเอียดคอนเทนต์ใหม่ๆ กับเกมที่เคยเปิดตัวไปแล้วอาทิเช่นคอนเทนต์ใหม่ของเกม Trackmania, ระบบ AI ของ Ghost Recon Breakpoint, เจาะลึกกับ Easter Egg ในเกม Division 2 และ Just Dance 2020 อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าเราจะได้เห็น Far Cry 6 ในรายการนี้ด้วยครับ! นอกจากนี้เวลา 02:00 น. ตัวงานจะเข้าสู่ช่วงรายการหลัก ที่ผู้พัฒนายืนยันแล้วว่าจะมีการโชว์ระบบของ Watch Dogs: Legion, รายละเอียดแบบเจาะลึกของเกม Assassins Creed Valhalla, โชว์เกม Hyper Scape และจัดการแข่งขัน รวมถึงอาจจะยังมี "เซอร์ไพรส์อื่นๆ" นอกจากนี้อีกก็เป็นได้ Credit: Gamingbolt
07 Jul 2020
Sony ประกาศเผยโฉมเกมสำหรับ PS5 สัปดาห์หน้า!
แม้จะยังไม่ใช่การเปิดตัวเครื่อง PlayStation 5 ตามที่หลายคนอาจจะอยากเห็นในขณะนี้ แต่ก็ใช่ว่าค่าย Sony จะไม่มีอะไรมาโชว์ซะทีเดียว เมื่อล่าสุดค่ายประกาศจะเผยโฉมเกมที่จะวางจำหน่ายสำหรับเครื่อง PS5 ผ่านไลฟ์สตรีมทาง Twitch และ Youtube เร็วๆ นี้ ตามที่เห็นในคลิป งาน The Future of Gaming จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ เวลา 3.00 น. (เวลาไทย) โดยในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีเกมอะไรมาเปิดตัวบ้าง แต่เชื่อได้ว่าน่าจะเป็น 38 เกมที่ถูกกล่าวถึงในนิตยสาร PlayStation Magazine ฉบับล่าสุดที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ สังเกติได้ว่าเกมทั้ง 38 เกมที่ถูกกล่าวถึงนั้น ไม่มีเกมที่เป็น Exclusive หรือเกมที่พัฒนาโดยค่าย 1st Party ของ Sony เลย เป็น แถมวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของนิตยสารยังเป็นวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่งอยู่ก่อนหน้าวันเปิดตัวเครื่อง PS5 ตามข่าวลือ 1 วันพอดี ซึ่งถ้าเป็นจริงตามนั้น ก็คงจะได้เห็นเกมเหล่านั้นในงานเปิดตัวพร้อมเครื่อง PS5 เลย ใน 38 เกมที่ว่ามามีเกมที่เป็นที่รอคอยของเกมเมอร์อย่าง Assassins Creed Valhalla, Dragon Age 4, Battlefield 6, และ Watch Dogs Legion อีกด้วย (รายชื่อดูจะไม่ได้รวมเกมบางเกมที่ยืนยันไปแล้วเช่น Cyberpunk 2077) ถือว่าเป็นไลฟ์สตรีมที่น่าจับตามองทีเดียว! สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
29 May 2020
Hero’s Journey : ‘ตัวเอก’ ของชิ้นงานสร้างสรรค์ที่ดี ที่เราอยากเชียร์
เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวที่ค่อนข้างชวนช็อคในแวดวงนักอ่านและนักเขียนพอสมควร เมื่อ คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือที่รู้จักกันในนามปากกา พนมเทียน’ เจ้าของผลงานนิยายผจญภัยอมตะของไทยอย่าง ‘เพชรพระอุมา’ และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2540 ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปีด้วยโรคหัวใจ ถือได้ว่าเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่แวดวงอย่างที่ไม่อาจประเมินค่าได้ [caption id="attachment_51861" align="aligncenter" width="1024"] คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ ครูพนมเทียน เจ้าของผลงานนวนิยาย เพชรพระอุมา ผู้ล่วงลับ[/caption] สำหรับผู้เขียน เพชรพระอุมา จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วย Shape เส้นทางงานตัวอักษรอยู่ไม่น้อย เพราะได้พาตัวเองไปร่วมท่องป่าล่องไพรไปกับจอมพรานอย่างรพินทร์ ไพรวัลย์และคณะ ก่อนที่จะเริ่มจับปากกาเขียนเรื่องราวของตัวเองอย่างจริงจัง แน่นอนว่าในความสมบูรณ์แบบของนวนิยายเรื่องนี้ตลอดทั้ง 48 เล่ม มันมีรูปแบบการดำเนินเนื้อหาในทฤษฎีหนึ่งอันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในทางวรรณกรรมวิจารณ์อย่าง ‘ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษ’ หรือ ‘Hero’s Journey’ ที่ถูกนำมาศึกษา และปรับใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสื่อแขนงต่างๆ และแน่นอน รวมถึงชิ้นงานอย่างวิดีโอเกมก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ถ้ากล่าวโดยสั้นๆ มันคือการศึกษารูปแบบและลักษณะของเรื่องราวปรัมปรา ว่าแม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมและโครงสร้างบางอย่างที่เหมือนกันที่สามารถจัดจำแนกเป็นหมวดหมู่ได้อย่างสรุปเป็นหัวข้อได้ทั้งหมด 8 หลักใหญ่ร่วมกัน (หรือซอยย่อยออกเป็น 17 หัวข้อหลัก) ตามแผนภาพที่นำเสนอด้านล่างนี้ การศึกษาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น เริ่มต้นขึ้นในปี 1871 โดย เอดเวิร์ด เบอร์เนตต์ ไทเลอร์ ที่ทำการสังเกตว่า เรื่องราวและตำนานต่างๆ ของโลกนั้น มีจุดร่วมกันบางอย่างที่มีแบบแผนและรูปแบบที่ตายตัว ก่อนที่นักวิชาการท่านอื่นๆ จะนำเอาทฤษฎีทางจิตวิเคราะห์ของทั้ง ซิกมันด์ ฟรอยด์ และคาร์ล ยุง เข้ามาใช้ร่วมกัน แต่คนที่นำเอาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษมาใช้อย่างจริงจังนั้น กลับเป็น โจเซฟ แคมป์เบิล ที่นำเอาแนวคิดดังกล่าวมาใช้อย่างจริงจังในหนังสือ ‘วีรบุรุษพันหน้า (The Hero with a Thousand Faces) และสรุปเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญได้ดังต่อไปนี้ วีรบุรุษออกจากโลกธรรมดาไปสู่ดินแดนที่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่นี้เขาจะได้พบกับสิ่งชักจูงที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ และจะได้รับชัยชนะ จากนั้นเขาจะกลับมาจากการผจญภัยอันลึกลับนี้พร้อมกับพลังที่สามารถช่วยผู้ชายคนอื่นได้ แน่นอนว่าทฤษฎีดังกล่าวนี้ แม้จะมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ไม่พ้นข้อครหาและเสียงวิพากษ์ว่า มันเป็นแนวคิดที่กว้างเกินกว่าที่จะใช้ประโยชน์ได้ในหลักการศึกษาปรัมปราวิทยาเปรียบเทียบ แต่เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มันเป็นเสาหลักหรือ Foundation ที่ดีเพียงพอสำหรับการบอกเล่าเรื่องราวในสื่อชนิดต่างๆ ตั้งแต่ตำนานการเดินทางของพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ บัญญัติสิบประการของโมเสส การเดินทางไปทำลายแหวนหนึ่งเดียวของโฟรโด้ใน The Lord of the Rings และรวมถึงการเขียนเรื่องราวในสื่อแขนงใหม่อย่างเช่นภาพยนตร์ และวิดีโอเกม สำหรับสื่อวิดีโอเกมที่เติบโตและต่อยอดมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นอีกหนึ่งสื่อบันเทิงแขนงหลักในรอบสี่ทศวรรษนั้น การพัฒนาการบอกเล่าเนื้อหาก็เป็นส่วนสำคัญที่ถูกให้ความใส่ใจ และการใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างความลื่นไหลในจังหวะการเล่น เพราะไม่ว่าจะเป็นการตามหาเจ้าหญิงพีชใน Super Mario Brothers, การผจญภัยข้ามยุคของภาคีมือสังหารในซีรีส์ Assassin’s Creed, การลุยฝ่าขุมนรกของ Doom Slayer ใน Doom Eternal, การผจญภัยของ Cloud Strife และผองเพื่อนใน Final Fantasy 7 Remake ไปจนถึงการเดินทางกอบกู้โลกหลังหายนะของ Aloy ใน Horizon Zero Dawn แต่สื่อวิดีโอเกมนั้นมีความพิเศษบางอย่างที่ทำให้ผู้สร้างต้องมีความใส่ใจกับการใช้งานทฤษฎีของวีรบุรุษที่มากกว่าสื่อบันเทิงชนิดอื่นๆ กล่าวคือ มันเป็นสื่อที่ ‘มีการตอบสนอง’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ กับผู้เสพรับอย่างตรงไปตรงมา มันคือการนำพาผู้เล่นไปสวมรับกับบทบาทและควบคุมทุกสิ่งที่เป็นไปผ่านหน้าจอในตลอดระยะเวลาหลักสิบจนถึงหลักร้อยชั่วโมง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเทียบกับสื่อที่มีธรรมชาติในการปฏิสัมพันธ์กับผู้เสพรับในทางเดียวอย่างเช่นภาพยนตร์ เพราะหน้าที่หลักของผู้สร้าง ไม่เพียงแต่จะต้องรังสรรค์โลกพื้นหลังของเกมให้มีความน่าเชื่อถือเป็น Context สำคัญ (ดังเช่นบทความชิ้นก่อนหน้านั้นที่ผู้เขียนได้ยกอ้างกล่าวถึงไปแล้ว) หากแต่ลำดับเรื่องราวและการเดินทางของตัวละครเอง ก็ต้องสมเหตุสมผลภายใต้ขอบเขตและเงื่อนไขที่กำหนด ไม่นับรวมกับ Content ที่จะต้องให้ความสนุกอย่างเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีส่วนร่วม และเชื่ออย่างสนิทใจว่า ตัวละครที่เขาจะได้ใช้เวลาร่วมกันนั้น เป็นเวลาคุณภาพที่คุ้มค่ามากพอจนกว่าจะถึงปลายทาง อนึ่ง การใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษในชิ้นงานวิดีโอเกม แม้จะเป็นเสาหลักสำคัญที่ผู้สร้างใช้ยึดโยงเอาไว้เป็นแก่นสำคัญ แต่ด้วยธรรมชาติของสื่อชนิดนี้เองนั้น เปิดทางให้กับการดัดแปลงและตีความได้อย่างหลากหลายสำหรับการบอกเล่าเนื้อหาและการใช้ทฤษฎีดังกล่าว เพราะมัน ‘อาจจะ’ ไม่จำเป็นว่าจะต้องจบลงด้วยความผาสุกแบบ Happy Ending เสมอไป การเรียนรู้และเหตุการณ์ของตัวละครอาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด การแตกสลาย และการ ‘กลายสภาพ’ ไปสู่ตัวตนใหม่ (ซึ่งก็ตรงกับหลักข้อสุดท้ายของทฤษฎี…) ดังเช่นผลงานเกมเดินหน้ายิงอย่าง Spec Ops: The Line ได้เลือกใช้ (เป็นหนึ่งในผลงานเกมเดินหน้ายิงที่แม้จะไม่โด่งดังมากนัก แต่ก็มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมที่ผู้เขียนขอแนะนำ…) และในทางหนึ่ง ในอนาคตข้างหน้า มันกำลังจะมีผลงานที่ท้าทายทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษอย่าง Watch Dogs : Legion ที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทตัวละครที่ ‘หลากหลาย’ ทั้งพื้นหลัง ความเป็นมา และคุณสมบัติ มันก็น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย ว่าทีมสร้างจะสามารถผูกเรื่องราวและใช้ทฤษฎีดังกล่าวอย่างไร ภายใต้สภาพแวดล้อมเปิด และการมีจุดร่วมอย่างกว้างๆ ไม่เจาะจงตายตัว ถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับผลงานชิ้นนี้ (ที่เราอาจจะต้องรอนานกว่าที่คิด จากแผนการเลื่อนการวางจำหน่ายเกมของ Ubisoft ที่ถูกผลักออกไปอย่างไม่มีกำหนด…) แต่ในท้ายที่สุดนี้ หากมองในโครงสร้างของทฤษฏีการเดินทางของวีรบุรุษที่ถูกใช้งานมาในตลอดระยะเวลาหลายสิบปีนั้น มันก็สะท้อนถึงความต้องการบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ในความปรารถนาที่จะเป็น ‘ใครสักคน’ ที่มีความสำคัญ ออกเดินทางในการผจญภัยอันไม่ธรรมดา และกลับมาพร้อมชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และสื่อวิดีโอเกม ก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดหลักนี้ให้เด่นชัดมากขึ้นโดยธรรมชาติของการปฏิสัมพันธ์และการตอบสนองของผู้เล่นที่มีต่อชิ้นงาน ที่สามารถควบคุม กระทำ และกำหนดทิศทางได้ด้วยตนเอง เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันอาจจะเป็นวงจรอันน่าเบื่อหน่ายของการใช้ชีวิตตามกำหนดและรูปแบบที่คุ้นเคยและชินชา โดยเฉพาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ที่วิกฤติโรคร้าย COVID-19 ทำให้ทุกอย่างถูกแช่แข็งและหยุดนิ่งไปโดยไม่รู้ว่าปลายทางจะไปจบลงที่ใด และเปลี่ยนโฉมหน้าของการเล่นเกมไปในทิศทางที่ไม่เคยมีมาก่อน… และการได้สวมบทบาทเป็นใครสักคน ไม่ว่าจะในรอยเท้าของรพินทร์ ไพรวัลย์กับคณะแห่งเพชรพระอุมา หรือวีรกรรมของ Big Boss (Punished Snake) ในซีรีส์ Metal Gear Solid ก็ตอบรับกับเสียงเรียกที่อยู่ภายในใจของเรา ที่ถูกปลูกฝังผ่านสื่อ เรื่องราว การบอกเล่า มาอย่างยาวนานตลอดช่วงระยะเวลาการเติบโตมาเป็นตัวตนในทุกวันนี้ และ ตัวเอกที่ดี ที่เรามีใจอยากเชียร์ ก็ถูกสะท้อนผ่านแนวคิดของทฤษฎีดังกล่าว ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เสมอมา... ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
27 Apr 2020
กระแสลบ Ghost Recon Breakpoint ทำพิษ! Ubisoft ประกาศเลื่อนเกมใหญ่พร้อมกัน 3 เกม
กลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับแฟนๆ เกมของผู้พัฒนา Ubisoft ซะแล้ว เมื่อล่าสุดค่ายได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายงานผลกำไรประจำปีว่าค่ายจะทำการเลื่อนวันวางจำหน่ายของเกมใหญ่ที่พัฒนาอยู่ถึง 3 เกมพร้อมกัน ประกอบไปด้วย Watch Dogs: Legion, Rainbow Six Quarantine, และ Gods & Monsters ออกไปยังปีธุรกิจ 2021 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2020 แทน (เดิม Watch Dogs: Legion มีกำหนดวางจำหน่ายเดือนมีนาคม 2020) สำหรับเหตุผลในการเลื่อนครั้งนี้ ทาง CEO ของค่ายคุณ Yves Guillemot ได้เปิดเผยว่าส่วนหนึ่งมาจากผลตอบรับและยอดขายอันน่าผิดหวังของทั้งเกม Ghost Recon: Breakpoint ซึ่งส่งผลให้ค่ายทำการปรับเปลี่ยนระบบการพัฒนาเกมภายในใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ ค่ายยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเกม Ghost Recon: Breakpoint ให้ตอบสนองความคาดหวังของผู้เล่นมากกว่านี้ด้วย ส่งผลให้เกมที่พัฒนาอยู่ในขณะนี้ต้องล่าช้ามากขึ้นนั่นเอง เกม Ghost Recon: Breakpoint วางจำหน่ายไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเกมได้รับเสียงวิจารณ์ในเชิงลบมากมายจากสื่อแทบทุกสำนัก โดยข้อตำหนิส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับระบบเกมเพลย์ที่ขัดแย้งกันเองของเกม และความไม่เสถียรของตัวเกมเองที่ทำให้เกิดบั๊คต่างๆ มากมายด้วย (อ่านรีวิวของ GameFever ที่นี่) แหล่งข่าว: PCGamesN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
25 Oct 2019
Watch Dogs : Legion เผยระบบแฮกกิ้งและแมคคานิคต่างๆในเกม
Watch Dogs : Legion ซีรีส์เเกม RPG เกี่ยวกับการแฮกกิ้วชื่อดัง ที่กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020  ภาคนี้ก็ได้มีการพัฒนาในเรื่องระบบ แฮกกิ้ง ซึ่งเป็นระบบหลักของเกมเพลย์ในเกมซีรีส์นี้ไปอีกขั้นหนึ่ง ต้องบอกก่อนว่าในภาคก่อนอย่าง Watch Dog 2 ตัวเกมเพลย์ก็ทำออกมาได้ดีมากๆแล้ว แต่ดูเหมือนภาคที่กำลังจะมาถึงนี้จะยังพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก Josh Cook Art Director ได้กล่าวว่า "Watch Dog Legion คือที่สุดของการรวมไอเดียต่างๆของทุกสิ่งที่เราได้ทำมาในภาคก่อนๆ ภาคนี้คุณสามารถ Hack เข้าดู Profile ของตัวละครอื่น ดูข้อความบนระบบ Social และพยามใช้ข้อมูลที่มีไปควบคุมหรือกำหนดฝูงชนเพื่อดำเนินเกม มันเป็นมากกว่าการนั่งจิ่มคอมพิวเตอร์แล้วสำหรับการแฮกกิ้งในเกมภาคนี้" ใครที่เป็นแฟนซีรีส์นี้ห้ามพลาดแล้วหละครับ Credit : Gamingbolt( https://gamingbolt.com/watch-dogs-legion-hacking-social-engineering-detailed  ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
03 Sep 2019
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Watch Dogs Legion เผยเกี่ยวกับความคืบหน้าของตัวละครและ DedSec
จากการสัมภาษณ์กับ Clint Hocking ผู้เป็น Creative Director ของเกม Watch Dogs Legion เกี่ยวกับระบบความคืบหน้าของตัวละครและ DedSec ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อถาม Hocking ว่าตัวละครทุกตัวที่เราช่วยเหลือสามารถอัพเกรดได้หรือไม่ คำตอบนั่นคือ “ได้อย่างได้แน่นอน” เขาตอบ “ทุกตัวละครสามารถถูกเทรนเป็น 1 จาก 3 คลาสได้หลังจากเข้าร่วม DedSec และทุกคนมีความคืบหน้าเป็นของตัวเอง พวกเขาสามารถเลเวลอัพและเพิ่มความสามารถได้ โดยความคืบหน้าได้จากการเล่นเป็นตัวละครออกไปทำเนื้อเรื่องหรือภารกิจนั่นเอง” “ในขณะเดียวกัน DedSec ก็มีความคืบหน้าเป็นของตัวเอง ตัวละครจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อกลุ่ม DedSec ได้พัฒนา หากสูญเสียตัวละครไปจะเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพและลดความคืบหน้าของกลุ่มไป ทำให้เราอาจเก่งสู้ศัตรูไม่ได้” Watch Dogs Legion วางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020 บน Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia อ้างอิง: gamingbolt
29 Jul 2019
สรุปเนื้อเรื่อง: Watch Dogs แฮกเกอร์ศาลเตี้ยผู้มีสมาร์ทโฟนเป็นอาวุธ (Part 2)
ปัจจุบันเกม Watch Dogs ที่ให้เรารับบทเป็นแฮกเกอร์ผู้ตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ยผดุงความยุติธรรม เปิดโปงองค์กรชั่วร้าย หยุดยั้งสิ่งต่างๆ ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ตัวเกมมีภาค 1, 2 และได้ดำเนินมาถึงภาค 3 หรือ Watch Dogs Legion นี้แล้ว โดยภาคนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020 บน Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia ทางเรา GameFever จึงอยากพาคุณกลับไปอ่านเรื่องราวที่ผ่านมาของ Watch Dogs ภาค 1 และภาค 2 ว่าพวกเขาเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน ตามกันต่อที่สรุปเนื้อเรื่องภาค 2 กันเลย สำหรับ Part 1 กดตามไปอ่านได้ที่นี่ ในภาคนี้เริ่มหลังจากเหตุการณ์ที่ชิคาโกใน 3 ปีให้หลัง, ซาน ฟรานซิสโกเป็นเมืองถัดไปที่มีระบบ ctOS ทว่าแฮกเกอร์หนุ่ม Marcus Holloway มีคดีความที่ตัวเองไม่ได้ทำติดตัว นั่นทำให้เขารู้ว่า ctOS กำลังทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยการป้ายความผิดที่พวกเขาไม่ได้ก่อ เขาจึงได้พยายามเข้าร่วมสมาคมแฮกเกอร์ DedSec เพื่อโค่น Blume ลงซะ โดยสิ่งแรกที่ Marcus ต้องทำคือเข้าไปลบข้อมูลตัวเองใน ctOS โดยมีเพื่อนของเขา Retr0 คอยช่วยเหลือ เขาก็ทำสำเร็จและเข้าสมาคมแฮกเกอร์ DedSec อย่างเป็นทางการ Marcus ได้ร่วมมือกับ Sitara, Wrench, Horatio และ Josh เริ่มหายอดผู้ติดตามเพิ่มเพื่อให้ประชาชนอยู่ข้างเรา สนับสนุนการทำงานของเรา เพื่อให้ง่ายต่อการต่อสู้กับองค์กรทุจริต ต่อมา Marcus ได้รู้ว่าโบสถ์ New Dawn ขู่ฟ้องร้อง DedSec จึงจะแฮกเข้าไปเอาข้อมูลของ New Dawn ออกมาแฉ พวกเขาจึงประกาศเรื่องนี้ผ่านโซเชียลมีเดียกับเหล่าประชาชนให้ลุกฮือขึ้นประท้วง พวกเขาได้ออกมาแฉความจริงของ New Dawn ว่าเป็นพวกลวงโลก ค้าข้อมูลลับไว้เพื่อใช้แบล็คเมล์คนให้เข้าร่วมสมาคม พวกเขาพบโดยบังเอิญเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าระบบ Bellwether โดย Dušan Nemec และ Blume ได้ร่วมมือกันเพื่อแชร์ข้อมูลประชาชนอย่างผิดกฎหมาย เพื่อให้มีอำนาจในการควบคุมการเงินและการเมืองของโลก สมาคมแฮกเกอร์ DedSec ได้ Raymond Kenney หรือ T-Bone มาช่วยเหลือ เขาคือผู้ที่มุ่งมั่นอยากต่อสู้กับ Blume มาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วในชิคาโก หรือก็คือเหตุการณ์ในภาคแรกนั่นเอง แต่เรื่องร้ายๆก็เกิดขึ้น Horatio โดนลักพาตัวไปโดยกลุ่มอันธพาล Tezcas และบีบให้เขามาร่วมงานด้วย Horatio ปฏิเสธและนั่นทำให้เขาถึงแก่ความตาย และนั่นทำให้ Marcus รู้สึกว่า เขาต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ จากความช่วยเหลือของ T-Bone ได้รู้ถึงการคอรัปชั่นของ FBI และองค์กรใน Silicon Valley จากการแฮกเข้าไปในเครือข่ายของพวกเขา จึงได้รู้ว่าพวกเขาจะส่งดาวเทียมของ Blume ออกสู่อวกาศเพื่อเข้าถึงสายเคเบิ้ลใต้ทะเล ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาเข้าถึงเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของโลกได้ทั้งใบ พวกเขาไม่อาจอยู่นิ่งเฉย Marcus จึงแทรกซึมเข้าไปเขตปล่อยดาวเทียมและติดตั้งโปรแกรงขัดขวางการกระทำดังกล่าวก่อนดาวเทียมอีกตัวจะถูกปล่อย เพื่อจัดการให้ถึงรากถึงโคน, Marcus บุกเข้าสำนักงานใหญ่ของ Blume เพื่อแฮกเซิฟเวอร์และเปิดโปงเรื่องทั้งหมด รวมถึง Bellwether ด้วย ส่งผลให้ Nemec ถูกจับกุม และ Blume เข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป จบเรื่องราวในภาค 2 ไว้เพียงเท่านี้
14 Jun 2019
สรุปเนื้อเรื่อง: Watch Dogs แฮกเกอร์ศาลเตี้ยผู้มีสมาร์ทโฟนเป็นอาวุธ (Part 1)
ปัจจุบันเกม Watch Dogs ที่ให้เรารับบทเป็นแฮกเกอร์ผู้ตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ยผดุงความยุติธรรม เปิดโปงองค์กรชั่วร้าย หยุดยั้งสิ่งต่างๆ ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ตัวเกมมีภาค 1, 2 และได้ดำเนินมาถึงภาค 3 หรือ Watch Dogs Legion นี้แล้ว โดยภาคนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020 บน Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia ทางเรา GameFever จึงอยากพาคุณกลับไปอ่านเรื่องราวที่ผ่านมาของ Watch Dogs ภาค 1 และภาค 2 ว่าพวกเขาเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน เริ่มกันที่สรุปเนื้อเรื่อง Watch Dogs 1 กันเลย จุดเริ่มต้น ตุลาคม 2012, แฮกเกอร์นามว่า Aiden Pearce และชายผู้เป็นอาจารย์และคู่หูของเขา Damien Brenks เข้าปล้นธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ที่ Merlaut Hotel โรงแรมหรูที่ชิคาโก ทว่าสัญญาณเตือนภัยได้ดังขึ้นโดยแฮกเกอร์ปริศนา Damien พยายามแกะรอยแต่ว่าพวกเขาต้องหนีออกไป สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ Aiden เกรงกลัวถึงอันตรายที่จะมาถึงครอบครัวเขา ในขณะที่กำลังขับรถหนีไปที่ปลอดภัย มือปืน Maurice Vega ไล่ยิงพวกเขาจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ Lena หลาวสาวของเขาตกอยู่ในอาการโคม่าและเสียชีวิตลงในที่สุด 11 เดือนต่อมา, Aiden แกะรอย Vega จนพบกันที่สนามเบสบอลแห่งหนึ่งใน Chicago และเค้นข้อมูลคนที่ว่าจ้างเขา แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคู่หูเขา Jordi Chin แล้วหลบหนีออกมาด้วยระบบ ctOS Central Operating System Central Operating System หรือ ctOS เป็นระบบขององค์กร Blume ที่เชื่อมต่อเครือข่างทั้งหมดเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล กล้องวงจรปิด ไฟจราจร สามารถเข้าถึงการคมนาคมทุกอย่าง การสื่อสาร หรือแม้แต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคในบ้านเรือน เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ ระบบนี้เองทำให้ชิคาโกกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ไฮเทคที่สุดในโลก ต่อมาเขาได้พบกับ Damien ที่เขาไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ภารกิจที่โรงแรม Merlaut ซึ่ง Damien มาเพื่อขอให้เขาตามหาแฮกเกอร์คนนั้นที่ทำแผนเสียตอนภารกิจที่โรงแรม Merlaut ซึ่งเขาปฏิเสธ ต่อมา Damien ได้จับ Nicole น้องสาวเขาเป็นตัวประกัน ทำให้ Aiden ต้องยอมทำทุกอย่างที่สั่ง เพื่อไม่ให้น้องสาวและหลานชายของเขา Jackson ต้องตกอยู่ในอันตรายไปมากกว่านี้ จากการช่วยเหลือจาก Clara Lille หนึ่งในสมาชิกสมาคมแฮกเกอร์ DedSec ทำให้ Aiden สามารถแกะรอยจนพบกับ Delford Wade หรือ Iraq ผู้เป็นอดีตทหารและหัวหน้าแก๊ง Black Viceroys รวมถึงลอบเข้าไปเอาข้อมูลจากเซิฟเวอร์ของเขา ข้อมูลที่เขาเก็บไว้คือข้อมูลของทุกคนในเมืองชิคาโก และใช้มันเพื่อปกป้องกลุ่มของพวกเขา เพราะสามารถเอาข้อมูลข่าวฉาวพวกนี้เป็นข้อต่อรองได้ สามารถขู่ว่าหากไม่ทำตามจะเอาไปเผยแพร่จนทำให้เกิดความเสื่อมเสีย พวกเขามีข้อมูลที่แกะรหัสยากเกินกว่าที่ Clara จะทำได้ เธอเลยบอกให้เขาตามหา Raymond Kenney หรือ T-Bone เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อเขาทำงานต่างๆตามที่ T-Bone ร้องขอจนเสร็จ T-Bone จึงตกลงแกะรหัสข้อมูลให้ Aiden บุกเข้าไปที่ฐานของ Iraq และดาวน์โหลดข้อมูลจากเซิฟเวอร์และเกิดการปะทะกันระหว่างเขากับ Iraq จนสุดท้าย Aiden ก็สังหาร Iraq แล้วจากไป แฮกเกอร์อีกคน JB Markowicz หรือ Defalt บุกเข้าเซิฟเวอร์ของ Aiden โขมยข้อมูลและลบข้อมูลทั้งหมดทิ้ง พร้อมปล่อยไฟล์เสียงที่บ่งบอกว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องภารกิจที่โรงแรม Merlaut นั่นทำให้ Aiden โกรธมากเพราะเธอถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลานสาวเขาเสียชีวิต และเขาได้ไล่เธอไป ต่อมา Aiden และ Damien ได้เจอกันซึ่งเขามามือเปล่า Damien จึงเผยแพร่ข้อมูลการก่ออาชญากรรมของ Aiden ไปทั่วจนทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก Aiden ได้แกะรอยร่วมกับ T-Bone เพื่อตามหา Defalt และเอาข้อมูลทั้งหมดกลับคืนมา หลังจากนั้น T-Bone แกะรอยจนพบที่อยู่ของน้องสาวเขา เขาไปช่วยน้องสาวและพาหลานชายหนีไปให้ไกลเพื่อความปลอดภัยของทั้งสอง T-Bone แกะรอยต่อจนพบ Dermot Quinn หรือ Lucky ผู้เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียไอริชที่เป็นเจ้าของโรงแรม Merlaut และเขาก็รู้ว่า Aiden เป็นใคร เขาบอกว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่า Aiden เมื่อตอนนั้นจะเข้ามาเอาวิดีโอการฆาตกรรมลับของนายก Rushmore Donovan เขาเลยต้องสั่งเก็บ Aiden ในระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น Aiden ได้แฮกและปิดการทำงานของหัวใจเทียมที่ Quinn เพิ่งผ่าตัดมา และสุดท้ายเขาก็ตายลงในที่สุด ความสูญเสีย ต่อมา Aiden ได้เร่งออกตามหา Clara เพราะเธอก็ถูก Quinn สั่งเก็บด้วยเนื่องจากช่วงหลังที่เธอล่นตุกติกไม่ทำงานให้ จึงคิดว่าเธออาจเอาเรื่องนี้ไปเปิดโปง แต่ทว่าเขามาสายเกินไป เธอถูกลอบสังหารต่อหน้าต่อตาเขา ข้อความเสียงสุดท้ายในโทรศัพท์เธอเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจต่อเขาที่เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้คนในครอบครัวเขาต้องตาย เธอจึงพยายามช่วยเหลือเขาสุดตัวด้วยความรู้สึกผิดตลอดมา หลังจากเขาแจ้งข่าวการตายของ Clara กับ T-Bone เสร็จ พวกเขาได้ปล่อยวิดีโอการฆาตกรรมลับของนายก Rushmore Donovan เผยแพร่สู่สาธารณะ ไม่นานนัก Damien โทรมาต่อว่าสิ่งที่เขาทำซึ่ง Aiden ไม่สนใจ Damien จึงบอกว่าเขาปลดล็อคระบบ ctOS ได้แล้วและตอนนี้เขากำลังจะควบคุมได้ทุกอย่าง ได้ยินดังนั้น Aiden จึงอัพโหลดไวรัสเข้าไปเพื่อสั่งปิดระบบทั้งหมดส่งผลให้ไฟดับทั้งเมือง ทำให้ Damien ใช้งาน ctOS ไม่ได้ Aiden รีบไปหา Damien ที่ประภาคารต่อเพื่อขัดขวาง ที่นั่นเขาพบ Chin อดีตคู่หูที่ร่วมมือกับ Damien เพื่อกำจัดเขา แต่ Aiden ก็สามารถผลัก Chin ร่วงลงจากประภาคาร และจัดการสังหาร Damien ลงได้ทั้งสำเร็จ จากข่าวก่อนหน้าที่ Aiden เผยแพร่ออกไป มีประกาศข่าวว่านายก Rushmore Donovan ฆ่าตัวตายและ Dermot Quinn ที่หัวใจวายตาย รวมถึงองค์กร Blume ประกาศออก csOS 2.0 เพื่อรับผิดชอบที่ระบบ ctOS ล่มจนไฟดับทั่วทั้งเมือง หลายวันต่อมา Chin ที่รอดตายติดต่อหา Aiden เพื่อปรองดองกันอีกครั้ง จากนั้น Aiden มาหา Chin ตามนัดพร้อมปืนพกที่มีกระสุนเต็มแม็ก พร้อมเปิดให้ผู้เล่นเลือกว่าจะเดินหนีหรือว่าเป่าหัวเขาซะ สำหรับบทความเนื้อเรื่อง Watch Dogs ภาค 2 ตามไปดูได้ที่นี่
14 Jun 2019
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Watch dogs Legion"
Watch Dogs: Legion Online ระบบ Cross-Play ยังไม่ถูกอัปเดตในวันที่ 23 มีนา
หลังจากพบปัญหาในโหมด Online ของ Watch Dogs: Legion ทางผู้พัฒนาได้ตัดสินใจเลื่อนวันอัปเดตบนเครื่อง PC ออกไปเป็น 23 มีนาคม แทน ซึ่งทางฝั่ง Console ถึงแม้จะอัปเดตโหมดนี้เข้ามาแล้ว ก็ยังมีการปิดคอนเทนต์บางส่วนอยู่เช่นกัน และจะมีการอัปเดตระบบอีกครั้งในวันเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเหมือนว่า Cross-Play จะไม่ได้มากับอัปเดตนี้ด้วย มีการยืนยันผ่านทาง Twitter ว่า หลังจากนี้ Watch Dogs: Legion จะมีระบบ Cross-Play กับ Cross-Generation-Play ถูกอัปเดตเข้ามาด้วยอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่รอบวันที่ 23 มีนาคม 2021 ซึ่งคิดว่า Ubisoft น่าจะต้องการแน่ใจว่า คอนเทนต์ทั้งหมดที่มีให้เล่น จะเล่นได้โดยไม่มีบัคใดๆ ครับ While crossplay and cross-generation-play is currently not available for the Watch Dogs: Legion Online Mode, the development team is working on adding this feature to the game with a later update. — Watch Dogs: Legion (@watchdogsgame) March 14, 2021 การสามารถเล่นเกมกับเพื่อนบนต่างเครื่องได้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับเลยว่าพวกเราน่าจะอยากเล่นเกมที่ไม่มีบัค หรือมีบัคน้อยมากกว่าครับ Credit: GamingBolt
15 Mar 2021
Watch Dogs: Legion เลื่อนอัปเดตโหมด Online บน PC ออกไปเป็น 23 มีนาคม
หลังจากเลื่อนอัปเดตจากปลายปีที่แล้วมาเป็นต้นปีนี้ แต่เหมือนว่าโหมด Online ของ Watch Dog: Legion ยังคงพบปัญหาอีกเล็กน้อยบนเครื่อง PC จนส่งผลให้ต้องเลื่อนวันอัปเดตออกไปอีก 2 อาทิตย์จาก 9 มีนาคม ไปเป็น 23 มีนาคม โดยปัญหาเกิดจากการที่เกมจะดับไปเองดื้อๆ เมื่อเล่นด้วยการ์ดจอบางตัวครับ ถึงแม้ว่าประกาศนี้จะไม่ได้เลื่อนอัปเดตโหมด Online บนเครื่องคอนโซลด้วย แต่เหมือนว่าอัปเดตของวันที่ 9 จะไม่ได้เปิดให้เล่นโหมดทั้งหมดเช่นกัน และทางฝั่ง PlayStation จะยังไม่สามารถใช้ Chat Text ในเกมได้ ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้จะถูกแก้ไขในอัปเดตวันที่ 23 มีนาคม 2021 พร้อมกันกับ PC สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ โหมด Online ของ Watch Dogs: Legion จะถูกอัปเดตให้กับเจ้าของเกมบนทุกเครื่องฟรีๆ โดยตัวเกมวางขายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC A message from the Watch Dogs: Legion team about the Online Mode: pic.twitter.com/VVeaZ7v7yb — Watch Dogs: Legion (@watchdogsgame) March 5, 2021 Credit: VG247  
08 Mar 2021
Watch Dogs Legion: ความรู้สึกจากการทดลองเล่นโหมด Online
ด้วยเนื้อหาของเกมที่เกี่ยวกับการรวมตัวกันของผู้คนธรรมดาๆ เพื่อต่อต้านอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า ทำให้เกม Watch Dogs Legion เป็นเกมที่เหมาะจะมีโหมด Multiplayer มากๆ อยู่แล้ว แม้ว่าโหมดจะไม่ได้มีอยู่ในเกมนับตั้งแต่ที่วางจำหน่าย และถูกเลื่อนมาจากกำหนดการเดิมในเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา แต่ทางผู้พัฒนา Ubisoft ก็ยังไม่ได้ทิ้งโหมดนี้ไปแต่อย่างใด และเตรียมจะเพิ่มโหมดเข้าไปในเกมตามสัญญาเร็วๆ นี้แล้ว! เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบเล่นเกม Watch Dogs Legion โหมดออนไลน์ ที่จะเปิดให้ผู้เล่นสามารถโลดแล่นไปในมหานครลอนดอนของเกมร่วมกับผู้เล่นอีก 3 คน (รวมกันเป็นห้องละ 4 คน) เพื่อช่วยกันทำภารกิจชนิดต่างๆ ในแผนที่ของเกมได้อย่างอิสระ โดยแม้ว่าประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เขียนอาจยังไม่สามารถพูดได้ว่าน่าประทับใจหรือน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ รวมถึงองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่ยังรู้สึกไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้มองเห็น “ความเป็นไปได้” ของโหมดที่จะต่อยอดระบบเกมเพลย์ของ Watch Dogs Legion ไปในทิศทางที่น่าสนใจมากขึ้นในอนาคต สำหรับรูปแบบเกมเพลย์ของโหมด Watch Dogs Legion Online ในช่วงต้น จะค่อนข้างคล้ายกับโหมด Singleplayer ของเกม ผู้เล่นจะเริ่มเกมในฐานะตัวละครชาวเมืองธรรมดา (รูปร่างหน้าตาจะถูกสุ่มมา) ก่อนที่จะค่อยๆ เสริมทีมด้วยการชักชวนตัวละครที่พบในโลก Open World มาเป็นพวก โดยเหล่าชาวเมืองเหล่านี้ก็จะมีทักษะและอุปกรณ์ติดตัวที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาชีพของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่นตัวละครที่มีอาชีพช่างก่อสร้างก็จะมีความสามารถในการเรียกหุ่นโดรนก่อสร้างมาขับขี่ได้เป็นต้น ซึ่งในจุดนี้ก็ไม่ต่างจากที่พบได้ในโหมด Singleplayer เท่าไหร่ จุดแตกต่างอย่างแรกคือวิธีการชักชวน NPC มาเป็นพวก แทนที่เราจะต้องช่วย NPC ทำภารกิจประจำตัวเสียก่อน ในโหมด Watch Dogs Legion Online นั้นสามารถทำได้ง่ายกว่ามากๆ เพียงแค่เรามีแต้ม Influence มากพอก็จะสามารถกดแสกน NPC ตัวไหนก็ได้และชวนเชามาเป็นพวกได้ทันที ซึ่ง NPC บางตัวอาจจะต้องใช้แต้มที่สูงกว่าตัวอื่นๆ เช่นถ้าเราอยากจะชวนทหารจากกองทัพ Albion (หนึ่งในองค์กรที่เป้นศัตรูหลักของเรา) มาเป็นพวก ก็อาจจะต้องใช้แต้มมากกว่าตัวละครตาสีตาสาตามถนนทั่วไปประมาณหนึ่งเป็นต้น เมื่อรวบรวม NPC ที่ต้องการจนพอใจแล้ว ภายในโหมด Online จะมีภารกิจให้เล่นอยู่ 4 ชนิดหลักๆ ด้วยกัน คือ Open World Mission, Co-op Mission, Tactical Ops, และ Spiderbot Arena ซึ่งเราจะขอพูดถึงแต่ละโหมดแยกกัน Open World Mission สำหรับภารกิจขั้นพื้นฐานที่สุด จะมีลักษณะเป็นภารกิจสั้นๆ ที่สามารถทำได้จากแผนที่ Open World ได้โดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้ต่างจากภารกิจในโหมด Single Player เท่าไหร่ บางภารกิจอาจจะให้เราลอบเข้าไปในฐานที่มั่นของศัตรูเพื่อแฮ๊คขโมยข้อมูลหรือสิ่งของ (เช่นรถ) หรือกระทั่งการกำจัด NPC ศัตรูที่กำหนดเป็นต้น ด้วยความที่แทบจะไม่ต่างจากภารกิจในโหมด Single Player ทำให้ภารกิจเหล่านี้แทบจะไม่ต้องใช้การร่วมมือกันระหว่างผู้เล่นเลย และดูเหมือนจะมีเอาไว้เพื่อใช้เก็บแต้ม Influence และเงิน ET0 อย่างรวดเร็วเพื่อปลดล๊อคตัวละคร เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์แก๊ตเจ็ตไปใช้ในภารกิจอื่นๆ ที่มีความยากและซับซ้อนกว่า Co-op Mission อย่างที่อาจจะพอเดาได้จากชื่อ ภารกิจชนิดนี้จะเป็นจุดกึ่งกลางระหว่าง Open World Mission และ Tactical Ops ซึ่งจะมีความยากและความซับซ้อนของเงื่อนไขการผ่านสูงกว่าภารกิจ Open World Mission ทั่วไป เปรียบได้กับเหล่าภารกิจ Jobs ในเกมอย่าง GTA Online โดยภารกิจนิดนี้มักจะถูกแบ่งออกเป็น 2-3 ช่วง เช่นภารกิจหนึ่งที่ผู้เขียนได้ลองเล่นจะเริ่มโดยให้เราบุกเข้าไปในโกดังของศัตรูเพื่อทำลายรถยนตร์จำนวนหนึ่ง นำไปสู่การป้องกันพื้นที่จากกลุ่มศัตรูที่บุกเข้ามา และจบด้วยการตามล่าศัตรูระดับหัวหน้าจำนวน 6 ตัวที่แอบซ่อนอยู่ในพื้นที่รอบๆ โดยภารกิจชนิดนี้มักจะมีส่วนที่บังคับให้เราต้องเปิดหน้าสู้กับศัตรูโดยตรงอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่เสมอ แตกต่างจากภารกิจ Open World Mission และภารกิจจากโหมด Singleplayer ที่มักจะสามารถทำได้ด้วยการลอบเร้น 100%    การที่ภารกิจมักจะบังคับให้ต้องปะทะกับกลุ่มศัตรูโดยตรง ทำให้ภารกิจชนิดนี้ให้ความรู้สึกขัดแย้งกับสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Watch Dogs Legion พอสมควร เพราะรู้สึกเหมือนโดนบังคับให้ต้องเล่นแบบใดแบบหนึ่งอยู่ตลอดเวลา แทนที่จะสามารถผ่านภารกิจได้ด้วยวิธีทีหลากหลายตามทางเลือกของผู้เล่น ซึ่งขนาดที่ค่อนข้างเล็กของพื้นที่ในการทำภารกิจยังจำกัดทางเลือกของผู้เล่นมากกว่าเดิม เพราะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ชนิดต่างๆ ที่มีในเกมได้อย่างเต็มที่นัก ทำให้ภารกิจเหล่านี้กลายเป็นการแลกกระสุนกับศัตรูไม่ต่างกับเกมอย่าง The Division หรือเกมยิงปืนแบบ 3rd Person ทั่วไปเลย แถมภารกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะจบในเวลาเพียงไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ จึงไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นต้อง “ร่วมมือ” กับผู้เล่นอื่นจริงๆ มากไปกว่าแค่ช่วยๆ กันยิงศัตรูให้หมดไปอย่างนั้นเอง Tactical Ops Mission อาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงของโหมด Online เลยก็ว่าได้ โดยจะดำเนินไปตาม “เนื้อเรื่อง” ที่มีความต่อเนื่องและเชื่อมโยงภารกิจทั้ง 5 ที่มีให้เล่นเอาไว้ด้วยกัน โดยจะต้องใช้ผู้เล่นอย่างน้อย 3 คนจึงจะเริ่มเล่นได้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นภารกิจที่เพิ่มความยากและความซับซ้อนมากกว่าภารกิจทั่วไปอย่างมีนัยยะสำคัญ คล้ายกับภารกิจแบบ Heist ของ GTA Online แต่ไม่ลึกซึ้งเท่า ข้อดีของภารกิจชนิดนี้คือการที่ภารกิจดูจะเปิดกว้างต่อการแก้ไขปัญหาในวิธีที่หลากหลายกว่าภารกิจอื่นๆ และสามารถเปิดช่องให้ผู้เล่นได้ใช้ความสามารถและอุปกรณ์พิเศษที่เกมมอบให้ได้อย่างเต็มที่ที่สุดในหมู่ภารกิจทั้งหมดเลย  ยกตัวอย่างในภารกิจ Tactical Ops อันแรกที่ผู้เล่นจะได้รับมอบหมายให้ลักลอบเข้าไปในอาคารฐานที่มั่นของศัตรูสองแห่งเพื่อดาวน์โหลดข้อมูลจากเซิฟเวอร์ภายใน แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องโหลดข้อมูลจากทั้งสองสถานที่พร้อมกัน ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องแบ่งทีมออกเป็นสองกลุ่มและทำภารกิจในสองสถานที่พร้อมๆ กัน ซึ่งเมื่อไปถึงแล้วก็ยังสามารถใช้วิธีพลิกแพลงเพื่อทำภารกิจได้ค่อนข้างมาก อย่างผู้เขียนกับเพื่อร่วมทีมที่ไปด้วยกันเลือกที่จะให้คนหนึ่งคอยดูต้นทางให้ด้วยการแฮ๊คกล้องวงจรปิด ในขณะที่อีกคนใช้หุ่น Spiderbot ลักลอบเข้าไปในฐานเป็นต้น แต่จริงๆ แล้วเมื่อลองสำรวจฐานศัตรูดูก็ค้นพบวิธีอื่นๆ ที่น่าจะใช้ได้อีกเพียบ ตั้งแต่การขี่หุ่นโดรนก่อสร้างเพื่อบินขึ้นไปบนหลังคาและลักลอบเข้าจากด้านบน หรือจะแฮ๊คกล้องวงจรปิดในฐานเพื่อเรียกหุ่น Spiderbot จากในฐานเลยก็ได้ เมื่อยิ่งดำเนินเนื้อเรื่องของ Tactical Ops ไปเรื่อยๆ ก็พบว่าภารกิจที่ตามๆ มาก็เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นทั้งในแง่ของภารกิจและชนิดของศัตรูที่พบ และต้องใช้การสื่อสารกันระหว่างทีมมากขึ้นไปตามลำดับ โดยสำหรับคนที่มีทีมที่พร้อมสื่อสารกันได้ก็จะทำให้เป็นประสบการณ์เกม Coop ที่สนุกและลึกซึ้งอยู่ไม่น้อย แต่ก็อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับการเล่นแบบ Public กับคนแปลกหน้าเพราะภารกิจจะยากมากๆ ถ้าไม่สามารถคุยกันและวางแผนได้ แถมเพื่อนร่วมทีมที่เพิ่มขึ้นยังอาจจะทำให้ะลอบเร้นเงียบๆ แทบจไม่ได้เลยหากไม่ได้คุยกัน ทั้งนี้ ภารกิจ Tactical Ops ก็ยังมีปัญหาอย่างหนึ่งที่พบในโหมด Co-op Mission นั่นก็คือการที่เกมมักจะบังคับให้ต้องเปิดหน้ายิงกับศัตรูในบางช่วง ทำให้เกมกลายเป็นเพียงเกมยิงปืนบุคคลที่ 3 ธรรมดาๆ ไปในจังหวะเหล่านี้ ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหานักสำหรับหลายๆ คน แต่ก็แอบขัดกับเกมเพลย์ที่ผ่านมาที่เน้นทีมเวิร์คและการวางแผนอย่างสร้างสรรค์ไปพอสมควร Spiderbot Arena สำหรับโหมดสุดท้ายนี้ จะเป็นการให้ผู้เล่น 4 คนบังคับหุ่น Spiderbot เพื่อต่อสู้กันในแผนที่เล็กๆ โดยในตอนเริ่มต้นจะมีเพียงปืนกลจระจอกๆ ให้ใช้ แต่ภายในแผนที่ก็จะมีอาวุธหลากหลายให้เก็บไว้เล่นงานผู้เล่นคนอื่นๆ เช่นปืนลูกซองหรือปืนเลเซอร์เป็นต้น เมื่อเล่นทำคะแนนไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถปลดล๊อคลวดลายใหม่ๆ ไว้แต่งหุ่นของเราให้ต่างกับของเพื่อนได้ แม้จะเป็นโหมด PvP เพียงหนึ่งเดียวที่มีให้เลือกเล่น แต่เอาเข้าจริงจะเรียกว่าเป็นโหมดแถมก็ได้ เพราะในโหมดนี้ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งไปกว่าการลงไปไล่ยิงกันเองขำๆ ด้วยหุ่นโดรน อาวุธที่มีให้เลือกก็ไม่ได้พิศดารหรือแปลกอะไรมาก แถมของรางวัลจากโหมดก็มีเพียงลวดลายใหม่ๆ เอาไว้แต่งหุ่นโดรนที่ใช้ได้เฉพาะในโหมดนี้อีกด้วย โดยแม้ว่าส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะรู้สึกว่าเกมเพลย์ของมันก็สนุกดี แต่พอเล่นไปได้ซักรอบสองรอบก็เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน น่าสงสัยว่าทำไม Ubisoft จึงเลือกจะใส่โหมดนี้เข้ามา แทนที่จะทำโหมด PvP เต็มรูปแบบที่จะรองรับผู้เล่นได้มากกว่าแค่ 4 คน สรุป กล่าวโดยสรุป แม้จะยังปฏิเสธไม่ได้ว่าโหมด Online ของ Watch Dogs Legion ยังอาจจะมีจุดอ่อนอยู่บ้าง โดยเฉพาะในโหมดภารกิจเล็กๆ ทั้งหลายที่ยังไม่น่าสนใจนัก รวมไปถึงโหมด PvP Spiderbot Arena ที่ดูจะเป็นมินิเกมมากกว่าเป็นโหมดเต็มๆ แยกออกมา แต่อย่างน้อยภารกิจ Tactical Ops ก็ยังสามารถต่อยอดเกมเพลย์จาก Singleplayer ได้อย่างน่าสนใจด้วยการเพิ่มองค์ประกอบของการร่วมมือกันระหว่างผู้เล่น คงต้องรอดูกันต่อไปว่าผู้พัฒนาจะสามารถเพิ่มภารกิจเหล่านี้เข้าไปในเกมได้สม่ำเสมอแค่ไหน และจะมีรูปแบบภารกิจแปลกๆ แบบไหนมาให้เราได้ร่วมกันฝ่าฟันไปกับทีมอีกในอนาคต
25 Feb 2021
Watch Dogs Legion เตรียมปล่อย Multiplayer ให้ได้เล่นกันวันที่ 9 มีนาคม 2021
หลังจากที่เลื่อนวันอัปเดตจากเดือน กันยายน ปีที่แล้วมาเป็นต้นปีนี้แทน ในที่สุดก็มีประกาศออกมาแล้วว่าโหมด Multiplayer ของเกม Watch Dogs Legion จะอัปเดตเข้ามาให้เราได้เล่นกันวันที่ 9 มีนาคม 2021 นี้ ทั้งบนเครื่อง PlayStation, Xbox และ PC ในการอัปเดตครั้งนี้ ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปทั่วเมือง London จับกลุ่มกับผู้เล่นอื่นได้สูงสุด 4 คน แล้วทำภารกิจเสริมตามสถานที่ต่างๆ หรือสนุกไปกับอีเวนต์ที่เกิดขึ้นภายในเมือง โดยภารกิจในรูปแบบ Co-Op จะมีแมคคานิครูปแบบใหม่ ให้เหล่าผู้เล่นช่วยกันแก้ปัญหาอีกด้วย “Leader of the Pack,” คือภารกิจ Tactical Op รูปแบบ 4 คนแรก ที่จำเป็นต้องใช้การทำงานร่วมกัน และการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมระหว่างผู้เล่น โดยภารกิจดังกล่าวจะถือเป็นหนึ่งในภารกิจรูปแบบ "End Game" ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ชอบความท้าทาย นอกจากเกมเพลย์ที่อาศัยความร่วมมือกันแล้ว ผู้พัฒนาได้เพิ่มโหมด PVP แรกเข้ามาชื่อว่า Spiderbot Arena โดยผู้เล่นจำเป็นต้องควบคุมหุ่นยนต์แมงมุม 4 ตัว เข้าต่อสู้เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง ทั้งหมดนี้จะถูกอัปเดตให้กับผู้เล่นที่มีเกมอยู่แล้วฟรีๆ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อส่วนเสริมเพิ่มเติมเลย ใครที่รอจะเล่นเกมนี้กับเพื่อนอยู่ สามารถกาปฏิทินรอได้เลยครับ Credit: https://www.vg247.com/.../watch-dogs-legion-multiplayer.../
23 Feb 2021
Ubisoft เผย ช่วงปลายปี 2020 บริษัทมียอดขายมากที่สุดในประวัติศาตร์
ตั้งแต่ช่วง ตุลาคม - ธันวาคม 2020 เราอาจสังเกตได้ว่าทาง Ubisoft ได้มีการปล่อยเกมฟอร์มยักษ์ใหม่ออกมาเยอะที่สุดในหมู่ Publishers รายใหญ่ด้วยกันประกอบด้วย Watch Dogs Legions, Assassin’s Creed Valhalla และ Immortals Fenyx Rising ซึ่งจากรายงานผลประกอบการช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2020 ได้ชี้ให้เห็นว่า Quarter ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล นอกจากเรื่องเงินที่ทำได้แล้ว CEO คุณ Yves Guillemot ยังเคลมอีกด้วยว่า "บริษัทมีจำนวนเกมที่ขายรวมกัน บนทุกแพลตฟอร์มมากที่สุดในปี 2020" ถ้ามานั่งย้อนมองในปีที่ผ่านมาทางบริษัทมีหลายเกมที่ฮิตติดกระแสเหล่าผู้เล่นมากมายจริงๆ โดยนอกจากสามเกมข้างบนแล้ว Just Dance 2020, Far Cry 5, The Crew 2 ก็ดูจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากรายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่า Ubisoft ได้เดินมายังเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว และหวังว่าทางบริษัทจะยังคงก้าวไปในเส้นทางที่ถูกเช่นนี้เรื่อยไปครับ (อ่านรายงานผลประกอบการช่วง Quarter สุดท้ายของ 2020 ได้ผ่านลิงก์นี้) Credit: GamingBolt  
10 Feb 2021
Epic Games Store เตรียมจัดงาน Showcase ลดราคาเกม AAA วัน พฤ นี้
ได้มีการประกาศโดย Epic Games Store วันนี้ว่า เตรียมพบกับงานไลฟ์สตรีม Showcase วัน พฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2021 นี้ โดยจากประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ดูเหมือนในช่วงเวลาเดียวกันจะมีการลดราคาเกมฟอร์มยักษ์หลายตัวในหน้าร้านค้าสูงสุดถึง 75% ด้วย โดยในรายชื่อมี Cyberpunk 2077, Assassins Creed Valhalla, Watch Dogs: Legion และเกม AAA ชื่อดังอีกมากมายเข้าร่วมด้วย! จากรายงานของ Gameinformer มีความเป็นไปได้ที่เราอาจได้เห็นการเปิดตัวเกมใหม่ ที่มีข่าวว่า Epic Games Store ซุ่มพัฒนาอยู่ด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ สำหรับการลดราคาเกมครั้งนี้ดูเหมือนจะยิงยาวเป็นเวลา 2 อาทิตย์ตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์ ยาวไปจนถึง 25 กุมภาพันธ์ เลยทีเดียว งานนี้ใครมีเกมอะไรอยากซื้อก็คำนวณเงินกันดีๆ นะครับ เข้าไปดูรายชื่อเกมที่จะลดราคาในครั้งนี้ได้ผ่านลิงก์นี้ ส่วนไลฟ์สตรีมสามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้ โดยจะเริ่มเวลา 2.00 am ของวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาบ้านเราครับ
09 Feb 2021
 Watch Dogs: Legion เลื่อนอัปเดตโหมด Multiplayer ไปต้นปีหน้าแทน!
ก่อนหน้านี้ Ubisoft เคยบอกว่า Watch Dogs: Legion จะมีการอัปเดตโหมด Multiplayer ให้เราสามารถเล่นกับเพื่อนๆ ได้ในช่วงเดือนที่จะถึงนี้ ซึ่งในโหมดดังกล่าวจะมีการเพิ่มภารกิจใหม่สำหรับเล่นหลายคนเขามาด้วย แต่เหมือนว่าล่าสุด การอัปเดตดังกล่าวจะเลื่อนไปต้นปีหน้าแทนแล้วครับ! ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า "เพื่อให้ตัวเกมสามารถทำ Watch Dogs Online ออกมาได้สมบูรณ์จริงๆ ทางทีมพัฒนาจึงได้ตัดสินใจที่จะเล่นวันอัปเดตแพทช์  ดังกล่าวออกไปเป็นต้นปีหน้าแทน" นั้นจึงหมายความว่าโหมด PVP ด้วยเช่นกัน ดังนั้นใครที่กำลังรอเล่นแบบ Co-Op กับเพื่อนในเกมนี้อยู่ ก็ต้องรอกันเพิ่มอีกนิดครับ! Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt 
26 Nov 2020
คนที่ซื้อแผ่นเกมของ Ubisoft บน PS4 ดูจะมีปัญหาในการย้ายไปเครื่อง PS5
Assassins Creed Valhalla และ Watch Dogs Legion เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ซึ่งทั้งสองเกมต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ดีมาก และมันจะยอดเยี่ยมมากถ้าหากเพื่อนๆ ได้เล่นเกมนี้บนเครื่องเจนใหม่อย่าง PS5 กับ Xbox Series X แต่สำหรับใครที่ซื้อแผ่นเกมนี้บนเครื่อง PS4 ไปแล้ว อาจจำเป็นต้องใช้วิธียุ่งยากนิดหน่อยในการนำเกมนี้ไปอัพเกรดเล่นบนเครื่อง PS5 ครับ! ปัญหาการอัพเกรดเกมบนเครื่อง PS5 ไม่ได้สำหรับคนที่มีแผ่นเกิดขึ้นกับผู้เล่นหลายคนในโซน EU โดยพวกเขาบอกว่า ไม่ได้รับข้อความให้อัพเกรดเกมเลย หลังจากที่ใส่แผ่นเข้าไปแล้ว ซึ่งบางที่อาจเป็นบัคบางอย่างที่เกิดขึ้นกับ Firmware ของเครื่อง PS5 ที่ดูจะยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องดี ที่อย่างน้อยเรายังสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเองอยู่ครับ Ubisoft ได้โพสต์บอกขึ้นตอนการอัพเกรดเกมเป็นเวอร์ชัน PS5 ให้กับคนที่ใส่แผ่น PS4 เข้าไปแล้วไม่ขึ้นขอความให้อัพเกรดแล้ว โดยสิ่งที่ทุกคนต้องทำมีดังต่อไปนี้ครับ ใส่แผนเกม PS4 เข้าไปในเครื่อง PS5 ไปที่หน้า game hub ของ PS4 และเลือกหัวข้อ VIEW PRODUCT ให้เลือกรับข้อเสนออัพเกรดเกมเป็นเวอร์ชัน PS5 กดดาวน์โหลด หรือ ซื่อสินค้าในราคาที่ลดลงแล้ว. หลังจากดาวน์โหลดเสร็จสิ้นแล้ว ผู้เล่นสามารถเล่นเกมดังกล่าวเวอร์ชันอัพเกรดแล้วได้เลยด้วยแผ่น PS4 (จำเป็นต้องใส่แผ่นทุกครั้งที่จะเล่น) Assassins Creed Valhalla และ Watch Dogs Legion วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GameRant
24 Nov 2020
Source Code ของเกม Watch Dogs: Legion หลุดออกมาในโลกอินเทอร์เน็ต!
Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายมาได้เกือบ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆ กำลังตัดสินใจจะซื้อเกมนี้มาเล่นในตอนนี้ละก็ ยังไงเราก็แนะนำให้เล่นบนเครื่อง PC ครับ และจากข่าวก่อนหน้านี้ เกมนี้จะมีโหมด Multiplayer ถูกอัปเดตเข้ามาให้เราเล่นกับเพื่อนๆ ในภายหลังด้วย แต่ล่าสุดเหมือนว่าเราอาจพบคนใช้โปรแกรมโกงในโหมด Multiplayer ได้ด้วยเช่นกันครับ เว็บไซต์ DSOGaming ได้รายงานว่ากลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า Egregor ได้ปล่อย Source Code ของเกม Watch Dogs: Legion ออกมาในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งนี่อาจทำให้มี Crack ของเกม กับโปรแกรมโกงตามมาในอนาคต โดยมันอาจทำลายสังคมในโหมด Multiplayer ของเกมได้เลย ล่าสุดทาง Ubisoft ยังไม่ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องรอดูต่อไปว่าพวกเขาจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไงครับ Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC โดยตัวเกมจะลงให้กับ PS5 กับ Xbox Series X / S ในภายหลังครับ Credit: IGN
04 Nov 2020
รีวิว Watch Dogs: Legion "ก้าวแรกสู่ Next Gen ของ Ubisoft"
หลังจากที่ได้ทดลองเล่นเกม Watch Dogs: Legion บนเครื่อง PS4 และ PC รวมๆ กันราว 20 ชั่วโมง ทำให้นึกย้อนกลับไปถึงการเล่นเกมคร่อม Gen อย่าง Assassins Creed IV: Black Flag ในเครื่อง PS3 เมื่อหลายปีมาแล้ว โดยแม้ว่าเกมเพลย์จะไม่ได้ต่างกันกับเวอร์ชั่น PS4 ที่ถือเป็น "Next-Gen" ในสมัยนั้น แต่ประสบการณ์ที่ได้จากเกมทั้งสองเวอร์ชั่นช่างต่างกันเหลือเกิน จากองค์ประกอบที่พัฒนาขึ้นจาก Gen หนึ่งไปอีก Gen หนึ่ง เกม Watch Dogs: Legion (เช่นเดียวกับเกม ACIV: Black Flag ที่กล่าวไป) อาจจะไม่ใช่เกมที่แปลกใหม่หรือหวือหวามากในแง่ของเกมเพลย์พื้นฐาน เช่นระบบต่อสู้ ระบบขับรถ หรือแม้กระทั่งระบบการแฮ๊คกิ้งของเกม ที่แม้จะดีขึ้นจากภาค 2 พอสมควร แต่ก็ไม่ได้พิเศษไปกว่าเกมอื่นๆ ที่ผ่านมาของค่าย Ubisoft เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้เกมมีความรู้สึกเป็น "Next-Gen" คือเรื่องของกราฟิกและเวลาโหลด ที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมบน PS4 และ PC แตกต่างกันอย่างชัดเจน และมีอิทธิพลต่อประสบการณ์การเล่นเกมอย่างมีนัยยะสำคัญเลย (ขอขอบคุณ Ubisoft สำหรับโค้ดเกมเวอร์ชั่น PS4 และ NVIDIA สำหรับเวอร์ชั่น PC) เนื้อเรื่อง Watch Dogs: Legion จะเกิดขึ้นหลังจากเกม Watch Dogs 2 ประมาณหนึ่ง โดยจะติดตามกลุ่มแฮ๊คเกอร์ DedSec สาขาลอนดอน ผู้ซึ่งต้องต่อกรกับองค์กรทหารรับจ้าง Albion ที่ถูกรัฐบาลลอนดอนว่าจ้างให้รักษาความสงบในเมือง หลังจากเหตุการณ์วางระเบิดครั้งใหญ่ของผู้ก่อการร้าย Zero Day แต่บริษัท Albion กลับฉวยโอกาสนี้ในการเข้ายึดครองเมืองลอนดอนอย่างเต็มตัวด้วยการป้ายสีความผิดให้กับ DedSec พร้อมกับจับกุมประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต่อต้านพวกเขาไปคุมขังอย่างกว้างขวาง ผู้เล่นจะรับบทเป็นสมาชิกใหม่ขององค์กร DedSec สาขาลอนดอน ผู้ซึ่งต้องชักชวนเหล่าประชากรผู้เหลืออดกับอำนาจเผด็จการของ Albion ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับผู้กดขี่ และทำให้ลอนดอนเป็นอิสระจากกลุ่มทหารรับจ้างที่ว่านี้อีกครั้ง   ถ้าให้เปรียบเทียบกับเนื้อเรื่องของเกมภาคที่ผ่านมา Watch Dogs: Legion เปรียบเสมือนจุดกึ่งกลางระหว่างความซีเรียสอึมครึมของเกมภาคแรก และความอารมณ์ดีติดตลกของเกมภาค 2 ซึ่งเป็นสมดุลที่กลมกล่อมกว่าทั้งสองภาคที่ผ่านมามากๆ โดยแม้ว่าเราจะยังมีตัวละครอย่างเจ้า A.I. ฝีปากร้ายประจำกลุ่ม DedSec อย่าง Bagley ที่จะคอบปล่อยมุกแซวผู้เล่นตลอดเวลา แต่เนื้อเรื่องก็ยังพูดถึงเหตุการณ์หนักๆ อย่างการค้าอวัยวะมนุษย์หรือการค้าแรงงานผิดกฏหมายได้พร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้เรื่องราวของเกมไม่รู้สึกจริงจังหรือมืดมนมากจนเกินพอดี ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่น่าชมไม่แพ้กันก็คือการที่เกมสามารถผูกโยงเรื่องราวของเหล่า NPC นิรนามในโลกเข้ากับเนื้อเรื่องของเกมได้ และทำให้ NPC เหล่านี้รู้สึกเหมือนมีความเป็นมนุษย์มาก จากบทสนทนาที่มีเสียงพากย์สำหรับตัวละครทุกตัว ไปจนถึงอุปนิสัยของตัวละครที่แสดงออกมาผ่านบทสนทนากันเองในทีมอย่างเป็นธรรมชาติ หรือการพูดบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจากประสบการณ์ของผู้เขียน NPC ในเกมนี้มีอุปนิสัย หน้าตา และภูมิหลังที่หลากหลายมากๆ (ยังไม่เคยเจอตัวที่หน้าตาซ้ำกันเลย) และความหลากหลายนี้เองก็ช่วยทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันกว่าเดิมด้วย ยิ่งเราเชิญชวน NPC เข้ามาร่วมทีมได้มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้บทสนทนาระหว่างสมาชิกทีม DedSec ของเรามีชีวิตชีวามากขึ้นไปด้วย นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว WD: L ยังมีเนื้อเรื่องเล็กๆ ของ NPC แต่ละตัว รวมไปถึงเนื้อเรื่องประจำเขต (Boroughs) ต่างๆ ของเมืองลอนดอนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดล้วนพูดถึงความพยายามของเหล่าประชาชนคนเดินดินในการต่อต้านอำนาจของ Albion ซึ่งก็ช่วยเสริมให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนตัวเองและการกระทำของเรามีผลต่อโลกในแบบที่เป็นธรรมชาติมาก แม้ว่าผู้เขียนจะยังไม่ได้เล่นจนจบเนื้อเรื่อง (เนื่องจากได้โค้ดเกมมาค่อนข้างช้า) ทำให้ยังไม่สามารถออกความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องโดยรวมๆ ได้ แต่เท่าที่ผู้เขียนเล่นมา ก็ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องและบทพูดของ Watch Dogs: Legion เป็นการพัฒนาขึ้นจากภาคก่อนหน้าอย่างชัดเจน และเป็นเกม Watch Dogs เกมแรกที่ผู้เขียนรู้สึกสนใจเนื้อเรื่องขึ้นมาจริงๆ เกมเพลย์ ในขั้นพื้นฐานนั้น เกม Watch Dogs: Legion ก็ไม่ได้แตกต่างจากเกมโลกเปิดสูตร Ubisoft อื่นๆ นัก ผู้เล่นจะต้องเดินทางไปบนแผนที่อันกว้างใหญ่ของเมืองลอนดอนเพื่อทำภารกิจหลากหลายชนิด เพื่อดำเนินเนื้อเรื่องและ/หรือเก็บทรัพยากรณ์หรือของตกแต่งไว้สำหรับพัฒนาตัวละครไปเรื่อยๆ โดยระบบการควบคุมเบื้องต้นก็ไม่ได้ต่างจากเกมแอคชั่นบุคคลที่ 3 ทั่วไปนัก ระบบที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดอาจจะมีเพียงระบบต่อสู้มือเปล่า ที่ใส่ความเป็นเกมแอคชั่นแบบเดียวกับ The Witcher เข้าไป โดยผู้เล่นจะต้องคอยหลบหลีกและหาจังหวะสวนกลับการโจมตีของศัตรูตลอดเวลา ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นประมาณหนึ่ง แถมตัวละครแต่ละชนิดยังมีท่าทางแอคชั่นที่ต่างกัน ทำให้มีความน่าสนใจทั้งในแง่ของเกมเพลย์และอนิเมชั่นด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้จะพูดได้เต็มปากว่า WD: L ถือเป็นเกม Watch Dogs ที่ดีที่สุด แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นเกมที่ “ดี” ในภาพรวมได้แค่ไหน จากเกมเพลย์อีกหลายๆ ส่วนที่ยังไม่ค่อยเข้ารูปเข้ารอยนัก อย่างแรกคือระบบการแฮ๊คกิ้ง ที่ยังคงติดๆ ขัดๆ อยู่ไม่ต่างจากเกมภาคเก่า แม้จะมีลูกเล่นใหม่ๆ อย่างการบังคับโดรนก่อสร้างเพื่อบินไปไหนมาไหน แต่โดยรวมก็ไม่ได้ต่างไปจากที่ผ่านมานัก ผู้เล่นจะต้องกระโดดจากกล้องวงจรปิดเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอมุมที่ต้องการในการแฮ๊คเข้าสู่ระบบที่ต้องแฮ๊ค โดยแม้ว่าในบางกรณีที่ต้องทำการแฮ๊คกิ้งในพื้นที่จำกัดจะไม่ได้มีปัญหานัก และยังมีพื้นที่ให้เราใช้การแฮ๊คกิ้งในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้ แต่เมื่อเราต้องบุกเข้าไปในอาคารหรือฐานทัพขนาดใหญ่ ก็อดหงุดหงิดไม่ได้เหมือนกัน เมื่อเราเลือกไม่ถูกว่ากล้องวงจรปิดกล้องไหนกันแน่ที่จะมองเห็นมุมที่เราต้องการ และการโดดไปโดดมาอย่างไร้จุดหมายก็ไม่ใช่เกมเพลย์ที่สนุกเท่าไหร่นัก และทำให้การเล่นเกมเหมือนเป็นเกมลอบเร้นบุคคลที่ 3 ธรรมดาๆ กลับรู้สึกสนุกกว่าการแฮ๊คกิ้งจริงๆ อย่างต่อมาคือระบบขับรถของเกม ที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยสนุกเอาซะเลย และเผลอๆ อาจจะแย่กว่าที่เคยมีในเกม Watch Dogs ภาคก่อนๆ ด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งมาจากสภาพถนนของกรุงลอนดินที่ค่อนข้างแคบ ทำให้เราไม่สามารถขับซอกแซกผ่านรถอันอืดอาดของ NPC ได้คล่องแคล่วเท่าเกมอย่าง GTA เมื่อนำมาผนวกกับการที่เกมมักจะบังคับให้เราต้องเดินทางข้ามแผนที่ไปมาเพื่อทำภารกิจ ทำให้ประสบการณ์การเดินทางในเกม Watch Dogs: Legion รู้สึกน่าหงุดหงิดรำคาญใจมากๆ แต่ครั้นจะไปใช้ระบบ Fast Travel ที่อ้างอิงจากรถไฟใต้ดินของลอนดอน ก็ยังหนีไม่พ้นความอืดอาดของจราจรในเกม เพราะผู้เล่นจะต้องเดินเท้าเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อปลดล๊อคสถานีรถไฟในเขตเหล่านั้นเสียก่อนถึงจะสามารถ Fast Travel ไปได้ ทำให้ผู้เล่นเหมือนโดนบังคับให้ต้องใช้การสัญจรทางถนนเป็นวิธีการหลักในการเดินทางอยู่ดี ซึ่งสำหรับผู้เขียนถือเป็นจุดอ่อนมากๆ ของเกมนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใช้ระบบ Fast Travel ก็ยังหนีไม่พ้นความหงุดหงิดรำคาญใจ เพราะเราจะต้องพบกับหน้าจอโหลดเกมทุกครั้งที่เดินทาง หรือกระทั่งทุกครั้งที่เข้า/ออกคัตซีนหรืออาคารบางแห่ง โดยใน PS4 จะต้องเผชิญกับปัญหานี้บ่อยมากๆ จนเรียกได้ว่าทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมแย่ลงไปเลยเหมือนกัน ปัญหาที่กล่าวมาเกี่ยวกับหน้าจอโหลดเกม ทำให้การเล่นเกมบน PC ที่มี SSD (หรือคอนโซล Next Gen ทั้งหลาย) ช่วยทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมดีขึ้นอย่างมาก เพราะความเร็วในการโหลดทำให้ผู้เขียนสามารถใช้ระบบ Fast Travel ได้โดยไม่ต้องรอเกมโหลดเป็นนาทีและทำให้เล่นเกมได้ลื่นไหลมากขึ้น เรียกว่าเปลี่ยนความรู้สึกของผู้เขียนไปได้เลย จนอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้พัฒนาตั้งใจออกแบบระบบเกมเพื่อให้เล่นบนเครื่องที่มี SSD แต่แรกเลยหรือเปล่า เพราะมันส่งผลต่อประสบการณ์โดยรวมอย่างใหญ่หลวงมาก อีกหนึ่งข้อตำหนิใหญ่ๆ คือเรื่องของภารกิจเสริม เช่นภารกิจการดึง NPC มาเป็นพวก ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ประเภทเท่านั้น และมักจะวนมาให้เล่นซ้ำๆ กันบ่อยมาก ซึ่งการซ้ำในรูปแบบเฉยๆ อาจจะยังไม่แย่มาก แต่บางครั้งก็ซ้ำไปจนถึงฉากที่จะต้องเข้าไปทำภารกิจเลยด้วย เช่นภารกิจหนึ่งบอกให้เข้าไปขโมยคลิปวิดีโอจากสถานีตำรวจ ส่วนอีกภารกิจหนึ่งให้ไปแฮ๊คระบบรักษาความปลอดภัยของสถานีตำรวจแห่งเดียวกัน โดยการที่เราต้องวนเวียนทำภารกิจเดิมๆ ในสถานที่เดิมๆ ก็ทำให้เบื่อหน่ายไปได้เร็วเหมือนกัน นอกเหนือไปจากนั้นก็มีเพียงข้อตำหนิเล็กๆ อย่างการที่เราไม่สามารถเปิดโหมดแสกนค้างเอาไว้เพื่อมองหา NPC ที่น่าชวนมาร่วมทีม (ต้องกดแสกนทีละคน ซึ่งเสียเวลามาก) หรือการที่เราไม่สามารถหยิบอาวุธในฉากหรืออาวุธที่ศัตรูทำหล่นมาใช้ได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญใจเล็กน้อยมากกว่าจะส่งผลต่อประสบการณ์โดยรวมของเกม  กราฟิก/การนำเสนอ อย่างที่อาจจะพอเดาได้จากหัวข้ออื่นๆ การเล่นเกม WD: L ใน PS4 และใน PC เป็นประสบการณ์ที่ต่างกันอย่างมาก และคงไม่มีจุดไหนที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างสองเวอร์ชั่นได้ชัดเจนเท่ากับในส่วนของกราฟิก จากวิดีโอตัวอย่างรวมไปถึงการสื่อสารของผู้พัฒนาที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าระบบ Ray Tracing จะมีความสำคัญมากต่อเกม WD: L ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนรู้สึกว่าต้องเห็นด้วยกับเขาจริงๆ เพราะการเล่นเกมใน PS4 โดยไม่มีระบบ Ray Tracing ทำให้ภาพในเกมรู้สึก “แบน” และจืดชืดไปซะหน่อยเมื่อเทียบกับการเล่นใน PC ที่สามารถแสดงถึงแสงสีของเมืองได้อย่างเต็มที่ แถมด้วยสภาพอากาศของลอนดอนที่มักจะมีฝนตกอยู่บ่อยๆ ยิ่งทำให้เทคโนโลยี Ray Tracing มีความสำคัญต่อประสบการณ์โดยรวมมากกว่าหลายๆ เกมที่ผู้เขียนเคยเล่นมาเลยก็ว่าได้ (เพราะมีพื้นผิวที่สะท้อนแสงเยอะ) นอกจากนี้ เทคโนโลยี NVIDIA DLSS ที่ผู้พัฒนาเลือกใช้ยังทำให้เกมสามารถรันได้อย่างลื่นไหลมากๆ แม้จะเปิด Ray Tracing แถมยังสามารถปรับแต่งสมดุลย์ระหว่างความละเอียดและเฟรมเรตได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดทำให้ประสบการณ์เกมบน PC ดีกว่าบน PS4 อย่างก้าวกระโดด และเชื่อว่าในเครื่อง Xbox Series X / PS5 ก็คงไม่ต่างกัน นอกเหนือไปจากนั้น ต้องบอกว่า WD: L ได้พัฒนากราฟิกในด้านหน้าตาตัวละครและความสมจริงโดยรวมขึ้นจากเกมอย่าง Assassin’s Creed: Odyssey หรือ Ghost Recon: Breakpoint เสียอีก โดยแม้ว่าสุดท้ายคงจะไม่ได้อยู่ในมาตรฐานเดียวกับเกมอย่าง Call of Duty หรือ Cyberpunk 2077 แต่ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ชัดเจน และทำให้ตัวละครในเกมมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้เหมือนกัน ถ้าจะมีข้อเสีย คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ตัวละครในเกมมักจะพูดกันด้วยสำเนียงอังกฤษแบบเน้นๆ ซึ่งแค่นี้ก็หลากหลายและฟังยากมากอยู๋แล้ว ยังมีสำเนียงของเหล่าผู้อพยพจากประเทศต่างๆ ที่ก็มีสำเนียงของตัวเองอีกที แถมการพูดจาของชาวอังกฤษยังเต็มไปด้วยศัพท์แสลงมากมายที่อาจจะต้องตีความกันหน่อยกว่าจะเข้าใจ นับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เกมไม่มีบทบรรยายภาษาไทย เพราะคนที่ฟังภาษาอังกฤษไม่ถนัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วน่าจะยิ่งงงเข้าไปอีก และไม่มั่นใจว่าจะติดตามเนื้อเรื่องหรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดีแค่ไหน สรุป กล่าวโดยสรุป แม้ว่า WD: L จะมีพัฒนาการที่ทำให้เกมมีความน่าสนใจมากกว่าเกมภาคก่อนๆ ในซีรี่ส์ โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อเรื่อง แต่โดยรวมก็ยังไม่ได้มอบอะไรที่ใหม่หรือพิเศษไปกว่าที่เราๆ น่าจะเคยได้เล่นกันมาแล้ว ไม่ใช่ว่าเกมไม่ดี แต่อาจจะเรียกได้ว่า “เฉยๆ” เสียมากกว่า แฟนๆ ของซีรี่ส์นี้น่าจะชอบเกมนี้ในฐานะเกม Watch Dogs ที่ดีที่สุด แต่สำหรับคนทั่วไป Watch Dogs: Legion อาจจะไม่ได้มีอะไรให้พวกคุณมากไปกว่าเกมแอคชั่นบุคคลที่ 3 เกมอื่นๆ นัก โดยเฉพาะเกมร่วมค่าย Ubisoft ด้วยกัน [penci_review id="71206"]
28 Oct 2020
เราสามารถใช้ Aiden เล่นเนื้อเรื่องหลักของ Watch Dogs Legion ได้เช่นกัน!
นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมากหลังจากรู้ว่า Aiden Pearce พระเอกของ Watch Dogs ภาคแรก จะเป็นตัวละครที่สามารถเล่นได้ใน Watch Dogs Legion และถึงแม้ว่าจะกลับมาในฐานะตัวละคร DLC แต่การเอาเขาไปเล่นในเนื้อเรื่องหลักของเกม ดูเหมือนจะสามารถทำได้ด้วยครับ! จากโพสต์ถามตอบของ Lathieeshe Thillainathan บนเว็บไซต์ Reddit มันทำให้เรารู้ว่า ผู้เล่นสามารถนำ Aiden Pearce ที่เป็นตัวละครภายใน DLC ไปเล่นเป็นตัวละครในเนื้อเรื่องหลักของเกมได้ ซึ่งผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเลื่อน DLC ให้จบก่อนเพื่อปลดล็อกเขา นอกจากนี้ยังมีการยืนยันด้วยว่า ฉาก Cut Scene ต่างๆ จะมีตัวตนของ Aiden อยู่ในนั้นด้วยหากเราเล่นเขาเป็นตัวละครหลักในเนื้อเรื่อง! ไม่ใช้แค่สามารถนำเขามาเล่นในเนื้อเรื่องได้เท่านั้น แต่ผู้เล่นยังสามารถแต่งตัวให้กับ Aiden ได้เช่นกัน ซึ่งในเรื่องของการแต่งตัวนั้นคุณ Lathieeshe ได้บอกว่า Wrench ที่เป็นตัวเอกของภาคสองเอง ก็สามารถถูกตกแต่งได้เช่นกัน และเขารอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นทั้งสองคนในเวอร์ชันต่างๆ โดยผู้เล่นครับ! Watch Dogs Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนของเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S จะตามาในภายหลังครับ Credit: IGN
20 Oct 2020
ผู้พัฒนาเผย "ไอเทมที่ใช้เงินซื้อใน Watch Dogs Legion จะไม่ช่วยให้เก่งขึ้น"
อีกไม่ถึง 10 วันแล้ว ก่อนที่เราจะได้สัมผัสกับเกม Watch Dogs Legion แต่หลังจากมีข่าวออกมาว่าตัวเกมจะสามารถเล่นแบบ Co-Op ได้แถมยังมีระบบ Microtransaction ด้วย เชื่อว่าหลายคนกำลังกังวลอยู่ว่า "เกมนี้จะ Pay to Win หรือไม่" อยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งผมจะบอกทุกคนว่า "หายห่วงได้เลยครับ" Ubisoft ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับไอเทม Microtransaction แล้ว ซึ่งเหมือนว่าไอเทมทั้งหมดที่เราเอาเงินจริงซื้อได้ จะเป็นเพียงแค่ไอเทมสำหรับตกแต่งอย่างพวกคอสตูม กับหน้ากากเท่านั้น ไม่มีไอเทมที่ช่วยให้สามารถเล่นเกมนี้ได้ง่าย หรือเก่งขึ้นเลย ดังนั้นสำหรับใครที่กลัวว่าจะสู้คนอื่นไม่ได้ในเกมนี้ ถ้าไม่เติมเยอะๆ ก็หายห่วงได้เลยครับ Watch Dogs Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคาม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนของเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S จะตามาในภายหลังครับ Credit: GameRant
20 Oct 2020
Watch Dogs: Legion เล่นได้ 4K/30 FPS หากเปิด RTX บน PS5 กับ Series X
อีกแค่ 10 วันก่อนที่พวกเราจะสามารถเข้าไปกอบกู้ London ใน Watch Dogs: Legion ซึ่งตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X ในภายหลังด้วย แน่นอนว่าหลายคนคาดหวังที่จะได้สัมผัสกับกราฟิกที่สวยงามกว่าบนเครื่องดังกล่าวแน่นอน และวันนี้เราก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าตัวเกมจะรันได้แบบ 4K / 30 FPS เมื่อเปิด RTX On บนเครื่องเจนใหม่ครับ! Lathieeshe Thillainathan ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ได้ยืนยันเรื่องผ่านเว็บไซต์ Reddit ว่าตัวเกมจะเล่นได้แบบ 4K / 30 FPS เมื่อเปิด RTX On บนเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X อย่างไรก็ตามในคอมเมนต์ของโพสต์ดังกล่าว มีหลายคนต้องการจะเล่นเกมนี้แบบ 60 FPS และถามว่าตัวเกมจะมีโหมด Performance ที่ทำให้เกมรันได้ถึง 60 FPS ด้วย หรือไม่แต่คุณ Lathieeshe Thillainathan ไม่ได้ให้คำตอบในส่วนนี้ครับ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคนที่มีเพื่อนจะเล่นเกมนี้บนเครื่องอื่นด้วย ล่าสุดได้มีการยืนยันว่าตัวเกมจะสามารถเล่นแบบ Offline ได้ และที่น่าดีใจขึ้นไปอีกคือตัวเกมจะมีการอัปเดตให้เล่นแบบ Cross-Play ได้ในภายหลังด้วยงานนี้จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่เรากับเพื่อนเล่นกันคนละแพลตฟอร์มครับ ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่าผู้พัฒนาจะมีการอัปเดตคอนเทนต์ Co-Op ตามมาในภายหลัง ดังนั้นระบบ Cross-Play จึงเป็นอะไรที่น่าดีใจสำหรับคนที่จะเล่นเกมนี้กับเพื่อนๆ ครับ เกม  Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt 
19 Oct 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยตัวอย่างพากย์ไทยใหม่ ชวนคุณไปทวงอนาคตคืน!
เมื่อ 3 เดือนก่อน Watch Dogs: Legion ได้ทำการปล่อย Trailer อย่างเป็นทางการครั้งแรก สิ่งที่น่าตกใจคือ Trailer ดังกล่าวนั้นมีเวอร์ชันพากย์ไทยให้เราได้ชมด้วย นับเป็นเกมระดับ AAA เกมแรกๆ เลยที่มีพากย์ไทยใน Trailer ให้เราดู และวันนี้อีกหนึ่งวิดีโอตัวอย่างของเกมที่มีการใช้เสียงพากย์ไทยเพิ่งจะปล่อยออกมาครับ ตัวอย่างใหม่นี้มีชื่อว่า "Watch Dogs: Legion - ตัวอย่างทวงคืนอนาคตของคุณ" โดยวิดีโอนี้ไม่ได้มีการโชว์ Footage เกมเพลย์อะไรมากมายนัก แต่เป็นการบอกเล่าให้เราได้รู้ว่ากลุ่มต่อต้านนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ซึ่งไม่รู้ทำไมเหมือนกันเวลาที่ดูวิดีโอตัวนี้ ตัวผมเองมีความรู้สึกอยากเล่นเกมนี้มากขึ้น แล้วเพื่อนๆ รู้สึกเหมือนกันหรือไม่ครับ? รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC
15 Oct 2020
เผย Spec ในการเล่น Watch Dogs Legion บนเครื่อง PC ปรับสุดต้องใช้ RTX 3080
เผย Spec ความต้องการบนเครื่อง PC ออกมาแล้วสำหรับ Watch Dogs Legion  เกมใหม่จากซีรีส์ Hacker ของผู้พัฒนา Ubisoft ซึ่งต้องยอมรับว่าตัวเกมนั้นค่อนข้างใช้ทรัพยากรเครื่องที่หนักอยู่เหมือนกัน ขนาด Spec ขั้นต่ำของเกมเองยังต้องการความแรงการ์ดจอมากถึง GTX 1650  รวมถึงถ้าใครอยากจะเปิดเทคโนโลยีอย่าง Ray Tracing ตัวเกมต้องการการ์ดจอที่มีความแรงขนาด RTX 3080 เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าหากใครที่ไม่ได้มีจอใหญ่ที่จะต้องเปิดเกมรายละเอียดขนาด 2K - 4K จริงๆ สำหรับคนที่มีคอมพิวเตอร์ระดับกลางก็ยังสามารถเล่นเกมนี้และปรับ High ได้อย่างสบายๆ เพราะตัวเกมต้องการเพียงแค่ Intel Core i7 - 4790 หรือ AMD Ryzen 5 - 1600 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งมาตรฐาน CPU ของชาวไทยที่เล่นเกมกล่องเองก็น่าจะถึงกันหมดทุกคนแน่นอน รวมถึงการ์ดจอยังใช้เพียงแค่ GTX 1060 ซึ่งการ์ดจอหลายๆ คนก็น่าจะอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงนี้เช่นกัน Watch Dogs Legion ในภาคนี้จะดำเนินเรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ณ เมือง London ประเทศอังกฤษ ภายในภาคนี้เราจะได้รับบทเป็นกลุ่ม DeadSec ที่จะต้องรวบรวมพรรคพวกจาก NPC ภายในเมืองในการต่อกรกับเหล่าผู้มีอำนาจ โดยเราสามารถเลือกตัวละครใดในเมืองมาเป็นพวกก็ได้ และพวกเขาก็จะมีความสามารถ สกิลต่างๆ และเรื่องราวที่แตกต่างกันไป โดย Watch Dogs Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงยังลงให้กับเครื่อง PS5 และ Xbox Series X อีกด้วยในเดือนพฤศจิกายน
12 Oct 2020
เกมเพลย์ Watch Dogs: Legion เริ่มทยอยถูกอัปโหลดลง Youtube แล้ว!
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่าย Watch Dogs: Legion ที่จะภาคนี้จะให้รับบทเป็นกลุ่มคนที่ต้องการปฏิวัติเมือง London โดยในตอนนี้ทางสื่อต่างๆ ที่ได้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ก่อนก็ได้เริ่มปล่อยวิดีโอโชว์ Footage เกมเพลย์ออกมาแล้ว ซึ่งบอกก่อนเลยเอาความยาวมารวมกันแล้ว มีความยาวมากกว่า 1 ชม. เลยทีเดียวครับ! เกมเพลย์ส่วนใหญ่ที่ปล่อยออกมานั้น จะเป็นการโชว์เกมเพลย์ในภารกิจที่ใช้ในการชวน NPC ให้เข้ามาเป็นพวกกับเรา ซึ่งการได้เล่นเป็นตัวละครต่างๆ ที่มีความสามารถแตกต่างกันออกไป มันทำให้เกมเพลย์ของ Watch Dogs: Legion ดูมีความน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวครับ ดูวิดีโอเกมเพลย์ต่างๆ ได้ข้างล่างนี้ นอกจากเกมเพลย์ที่ถูกปล่อยออกมาจากทาง Ubisoft เอง และสื่อต่างๆ แล้ว ยังมีการปล่อยอีกหนึ่ง Trailer ตัวใหม่ที่ชื่อ "Watch Dogs: Legion - Story Trailer | PS4" ออกมาด้วย! โดยเรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านวิดีโอนี้จะกล่าวถึง Zero Day และเหตุผลว่าทำไมเมือง London ถึงได้มีสภาพแบบนี้! วิดีโอตัวนี้จะเล่าว่า อยู่ดีๆ ก็มีการระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเมือง และมีผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น ได้ใช้โดรนป่าวประกาศไปทั่วเมืองว่าเป็นฝีมือของเขา ทั้งยังประกาศอีกว่า "วันนี้คือ Zero Day" แถมยังบอกอีกด้วยว่าสิ่งที่เขาทำเป็นความถูกต้อง เพราะการทำลายคือการรักษาเช่นเดียวกัน โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มันเลยทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ ตามมาในภายหลัง รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะทาง Ubisoft ยังปล่อยอีกหนึ่งวิดีโอพูดถึงคอนเทนต์ต่างๆ ที่จะตามมาหลังเกมวางจำหน่าย โดยเรื่องแรกคือโหมด Online ที่จะมาในวันที่ 3 ธันวาคม 2020 ในโหมดนี้ผู้เล่นจะสามารถเล่น Co-Op ได้สูงสุด 4 คน สำรวจเมือง London, ชวน NPC ต่างๆ มาเข้าร่วม รวมไปจนถึงภารกิจใหม่ที่สามารถเล่นหลายคนได้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Dynamic Event ที่จะทำให้การเดินไปตามท้องถนนในเมืองน่าสนุกยิ่งขึ้น นอกจากนี้จะมีการเพิ่มโหมด PVP ที่ให้เราควบคุมเป็นหุ่นยนต์แมงมุมต่อสู้กันเองด้วย, ภารกิจ Invasion ที่ได้รับความนิยมในเกมภาคก่อนๆ เองก็จะมีให้เล่นในภาคนี้ด้วย แต่สิ่งน่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นตัวละครใหม่จาก DLC ที่กำลังจะตามมาครับ ก่อนหน้านี้เราได้รู้ไปแล้วว่าพระเอกของเกมภาคแรกจะมีบทบาทในภาคนี้ด้วย แต่บอกเลยว่าอีก 3 คนที่เหลือ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยครับ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ! Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ครับ Credit: GameRant
07 Oct 2020
10 เกม PC /Console น่าเล่นประจำเดือนตุลาคม 2020
ตุลาคมถือว่าเป็นอีกหนึ่งเดือนที่เข้าสู่ช่วงเวลาปลายปีอย่างเป็นทางการ ทำให้บรรดาเหล่าค่ายเกมต่างที่จะนำเอาเกมต่าง ๆ ออกมาวางจำหน่าย โดยเฉพาะเกมระดับ AAA ที่เชื่อว่าสามเดือนต่อจากนี้ต้องมีคนหมดตัวแน่นอนและเดือนนี้เพิ่งที่จะเริ่มต้นเท่านั้น สำหรับมหากรรมในการเสียเงินที่จะทำให้คุณเงินหมดไปจนถึงปีหน้า Super Mario Bros. 35  - 1 ตุลาคม แพลตฟอร์ม:  Nintendo Switch  Super Mario Bros. 35 นับว่าเป็นที่สร้างมาเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 35 ปีของคุณลุง Mario พร้อมกับรูปแบบ Free to Play สำหรับคนที่สมัคร Nintendo Switch ออนไลน์ โดยความพิเศษของเกมนี้คือการเปลี่ยนแนวเกมจาก Platformer ธรรมดาสู่เกม Battle Royale ที่ต้องวัดฝีพร้อมกับผู้กับผู้เล่นอื่น ๆ มากถึง 35 คนเลยทีเดียว ตัวเกมมีลูกเล่นหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเสกศัตรูใส่เกมของอีกฝ่าย ไปจนถึงการสร้างอุปสรรคสุดกวน ใครที่อยากจะลองเปลี่ยนแนวจาก Mario เดิม ๆ ที่คุ้นเคยเกมนี้นับว่าน่าลอง Crash Bandicoot 4: Its About Time – 2 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4 , Xbox One  ถือว่าเป็นภาคใหม่ล่าสุดในรอบ 22 ปีของซีรีส์ Crash Bandicoot จากทางทีมงาน Naughty Dog เจ้าของเดียวกับ The Last of Us และ Uncharted ที่ในเกม Crash Bandicoot 4: Its About Time เราคงจะยังได้รับเป็น Crash ในการต่อกรกับ Dr . Neo Cortex หลังจากที่สูญหายไปในภาคที่ 3 พวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งทำให้ Crash ต้องออกไปแก้ไขสถานการณ์พร้อมกับตัวละครใหม่อย่าง Coco อีกด้วย รูปแบบของเกมจะยังคงเสน่ห์ของความคลาสิคผสมกับการนำเสนอใหม่ ๆ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น สนุกยิ่งขึ้นพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เราได้เล่นตัวละครที่หลากหลายอีกด้วย ดังนั้นแฟน ๆ ของเกมนี้อุ่นใจได้ว่าเกมในความทรงจำวัยเด็กของเราต้องกัลบมายอดเยี่ยมอย่างแน่นอน Star Wars: Squadrons - 3ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One สงครามอวกาศกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของเกมขับยานรบสู้กันใน Star Wars: Squadrons ที่ว่าด้วยเรื่องราวของกองยานรบของฝ่าย Republic และ Empire ที่ต้อสู้กันอย่างกล้าหาญเพื่อที่จะแย่งชิงความเป็นหนึ่งในห้วงจักรวาลนี้ ตัวเกมมีระบบต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายทั้งไม่ว่าจะเป็นระบบการแพ้ชนะกันของยานรบ ระดับการปรับแต่งยานรบ ไปจนถึงการตกแต่งห้องนักบินที่สามารถทำได้อย่างอิสระ ใครที่ชอบการ Dogfight เกมนี้นับว่าน่าโดน Blaston – 8 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC (VR)  Blaston นับว่าเป็นหนึ่งในเกม VR ที่น่าสนใจด้วยการผสมกันระหว่างเกมแนว Shooting แบบ Cowboy ร่วมกับเกมประเภท VR ทำให้รูปแบบการเล่นของเกมนี้จะสนุกมาก ๆ เพราะเราจะต้องยิงอีกฝ่ายให้โดนในขณะเดียวกันเราก็ต้องหลบกระสุนต่าง ๆ ให้ดี ตัวเกมเองก็มาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามและเสียงดนตรีที่โดนใจ หากใครกำลังหาเกมแนว VR อยู่ก็ขอแนะนำเกมนี้ The Uncertain: Light at the End - 8 ตุลาคม แพลตฟอร์ม : PC The Uncertain: Light at the End คือเกมอินดี้ที่น่าสนใจมากเกมหนึ่งในเวลานี้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ในยุคหลังอารยธรรมลุ่มสลาย ที่โลกของเราถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ ตัวเกมนำเสนอในความเป็นเกมแนวรอบเร้นผสมกับการไขปริศนาที่แยบยล ทำให้คุณต้องปวดหัวและเนื้อเรื่องที่กินใจ พร้อมกับดนตรีประกอบที่ยอดเยี่ยม ถ้าหากพอจะมีเวลาว่างก็แนะนำเกมนี้เลย FIFA 21 - 9 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One สุดยอดเกมกีฬาฟุตบอลขวัญใจมหาชนคงหนีไม่พ้นเกมตระกูล FIFA ที่ในปีนี้ก็ส่งเกมประจำปีออกมา โดยในภาคใหม่นี้ทาง EA ได้พัฒนาเกมให้ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน อย่างเช่นระบบ Career Mode ที่ได้รับการนำกลับมาพัฒนาในดีขึ้น ระบบการเล่นที่ได้มีการเพิ่มในส่วนของการเลี้ยงและการเคลื่อนที่ให้มากขึ้น ทีท่าในการเล่นหลากหลายมาขึ้น ที่สำคัญที่สุดเกม FIFA 21 ยังได้พัฒนากราฟิกของเกมให้ดีขึเนกว่าภาคเดิมอีกด้วย ใครเป็นสาวกของกีฬาฟุตบอลก็ลองหามาเล่นได้ Transformers: Battlegrounds – 23 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One, Nintendo Switch  BUMBLEBEE และเหล่า Autobots ต้องเปิดศึกกับเหล่า Decepticon อีกครั้งในเกม Transformers: Battlegrounds ที่รอบนี้มาในรูปแบบเกม Turn-Base กับกราฟิกแบบการ์ตูน ตัวเกมเน้นการวางแผนในการบังคับบัญชาหุ่นยนต์ต่าง ๆ ในการต่อกรกับเหล่าร้ายตั้งแต่ดาวโลกไปจนถึง Cybertron ตัวเกมมีระดับความยากที่หลากหลายอีกทั้งยังรองรับการเล่นแบบ Co-Op อีกด้วย ใครที่เป็นสาวกของการ์ตูนเรื่องนี้ห้ามพลาด 8.Ghostrunner – 27 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One หนึ่งในเกมที่ใครหลายคนจับตามองในปลายเดือนนี้ Ghostrunner เป็นเกมแนว FPS ในโลกแบบ Cyberpunk ที่เราจะต้องออกไปต่อกรกับ Mara the Keymaster ผู้ปกครองท้องถนนด้วยกำปั้นเหล็กและความรุนแรง ทำให้ตัวเอกต้องออกมาทวงความยุติธรรมด้วยดาบของเขา ตัวเกมเน้นการผสมผสานกันระหว่างเกมอย่าง Mirror Edge กับเกม Dishonor ที่เราจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระราวกับการ Free Running พร้อมกับการออกท่าที่หลากหลาย ใครที่ชอบเกมแนวนี้และธีมโลกแบบ Cyberpunk ก็แนะนำเกมนี้เลย Watch Dogs Legion  – 29 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One , Stadia หลังจากเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วในที่สุดวันที่เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกรอคอยก็มาถึง Watch Dogs Legion ว่าด้วยเรื่องราวของการปลดแอกเมือง London จากเหล่าผู้ปกครองอันแสนชั่วร้ายในฐานะของกลุ่มต่อต้านนามว่า DedSec  โดยตัวเอกของเกมนี้จะไม่ได้มีแบบสำเร็จรูปแต่จะเป็นชาวเมืองที่เราไปเกณฑ์มา ซึ่งแต่ละคนจะมีความสามารถที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า การยิงปืนไปจนถึงการ Hack นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายให้เราได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ซื้อแล้วคุ้มมาก ๆ The Dark Pictures Anthology: Little Hope – 30 ตุลาคม แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation 4 , Xbox One  ปิดท้ายกันด้วยเกมสยองขวัญแห่งเทคกาลฮาโลวีนกับ The Dark Pictures Anthology : Little Hope ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กมหาลัย 4 คนและอาจารย์ได้เดินทางไปยังเมืองแห่งหนึ่งห่างไกลความเจริญ อันเต็มไปด้วยเรื่องราวปริศนาและความสยองที่พวกเขาจะไม่ลืมไปเลยตลอดทั้งชีวิต พร้อมกับระบบทางเลือกที่ตัดสินใจผิดชีวิตอาจจะเปลี่ยน สำหรับเกมนี้นอกจากนี้คุณจะสยองขวัญเองแล้ว คุณยังพาเพื่อนมาเล่นด้วยกันได้ เพราะเกมนี้รองรับการเล่นพร้อมกับมากถึง 5 คนเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งเกมสยองที่คุณควรลอง
02 Oct 2020
ซื้อการ์ดจอซีรีส์ 30 จากทาง Nvidia วันนี้ รับ Watch Dogs: Legion ไปเลยฟรีๆ !
การ์ดจอตัวรองท็อปซีรีส์ใหม่ RTX 3080 จากทาง Nvidia เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ โดยในช่วงปลายเดือนนี้ และเดือนหน้าจะเป็นคิวของ 3090 และ 3070 ออกมาวางจำหน่าย ซึ่งนอกจากจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว ดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับโปรโมชั่นดีๆ ด้วยครับ ล่าสุดได้มีการประกาศว่า ใครก็ตามที่ซื้อการ์ดจอสามรุ่นดังกล่าวก่อนวันที่ 29 ตุลาคม จะได้รับเกม Watch Dogs: Legion ไปเลยฟรีๆ ด้วย! ทาง Nvidia ได้ทำการปล่อยภาพใหม่ที่บอกว่า ใครก็ตามที่ซื้อการ์ดจอสำหรับเครื่องคิวพิวเตอร์ตัว RTX 3090, 3080 หรือ 3070 ก่อนวันที่ 29 ตุลาคม จะได้รับเกม โค้ดเกม Watch Dogs: Legion ไปเลยฟรีๆ (โค้ดเกมที่ได้จะหมดอายุในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2020) งานนี้บอกเลยว่าใครตั้งใจจะซื้อการ์ดจอใหม่มาเพื่อเล่นเกมนี้โดยเฉพาะโอกาสนี้ห้ามพลาดครับ
17 Sep 2020
Watch Dogs: Legion เผยความต้องของระบบเวอร์ชั่น PC ในทุกระดับกราฟิก!!
Watch Dogs: Legion ของ Ubisoft เป็นหนึ่งในเกมที่มีแฟนๆ ติดตามและรอคอยอยู่มาก ในตอนนี้ผู้พัฒนาก็เผยข้อมูลที่แฟนๆ ชาว PC รอคอยออกมาแล้วครับ นั่นคือความต้องของระบบ PC สำหรับเกมนี้นั่นเอง ตัวเกม Watch Dogs: Legion มีการตั้งค่ากราฟิกที่พิเศษกว่าหลายๆ เกมครับ เพราะมันสามารถตั้งค่าความละเอียดแบบ 1080p ในระดับกราฟิกต่ำไปจนถึงความละเอียดแบบ 4K ได้ รวมถึงการตั้งค่ากราฟิกแบบพิเศษด้วย สามารถดูความต้องการของระบบได้ด้านล่างครับ 1080p / Low Settings CPU: Intel Core i5-4460 / AMD Ryzen 5 1400 GPU: NVIDIA GeForce GTX 960 or AMD Radeon R9 290X VRAM: 4 GB RAM: 8 GB Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) 1080p / High Settings CPU: Intel Core i7-4790 / AMD Ryzen 5 1600 GPU: NVIDIA GeForce GTX 1060 or AMD Radeon RX 480 VRAM: 6 GB RAM: 8 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) 1440p / High Settings CPU: Intel Core i7-7700K / AMD Ryzen 5 2600 GPU: NVIDIA GeForce RTX 2060S or AMD Radeon RX 5700 VRAM: 8GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) 4K / Ultra Settings CPU: Intel Core i7-9700K / AMD Ryzen 7 3700K GPU: NVIDIA GeForce RTX 2080 Ti or AMD Radeon VII VRAM: 11 GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB (+ 20 GB HD Textures Pack) Operating System: Windows 10 (x64) Ray Tracing On – 1080p / High Settings CPU: Intel Core i5-9600K / AMD Ryzen 5 3600 GPU: NVIDIA GeForce RTX 2070 VRAM: 8 GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45 GB Operating System: Windows 10 (x64) Ray Tracing On – 4K / Ultra Settings CPU: Intel Core i7-9700K / AMD Ryzen 7 3700X GPU: NVIDIA GeForce RTX 2080 Ti VRAM: 11 GB RAM: 16 GB (Dual-channel setup) Storage Space: 45GB (+20 GB HD Textures Pack) Operating System: Windows 10 (x64) Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม สำหรับเครื่อง Xbox One, PlayStation 4, PC และ Google Stadia นอกจากนี้ในวันที่ 10 พฤศจิกายน จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 พฤศจิกายน สำหรับเครื่อง Xbox Series S กับ Xbox Series X ส่วนของเครื่อง PlayStation 5 ยังไม่มีกำหนดครับ Credit: Gamingbolt
16 Sep 2020
Watch Dogs Legion ปล่อยเทรลเลอร์เกมเพลย์ใหม่ พร้อมการกลับมาของ Aiden Pearce!
จัดงาน Ubisoft Forward กันทั้งที มีหรือที่ผู้พัฒนาขวัญใจมหาชนจะไม่ขนเอาเกมที่ทุกคนเฝ้ารออย่าง Watch Dogs: Legion มาอวด! โดยตัวอย่างเกมเพลย์ใหม่ล่าสุดครั้งนี้ นอกจากจะทำการอธิบายถึงระบบการชักชวน NPC เข้ามาเป็นพวกแล้ว ยังมีการแสดงอุปกรณ์และอาวุธเท่ๆ มากมายที่เราสามารถมอบให้กับตัวละครของเราอีกด้วย! นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนายังมีเซอร์ไพรส์พิเศษสำหรับแฟนๆ ของเกมภาคแรก ด้วยการประกาศการกลับมาของตัวเอก Aiden Pearce ในฐานะตัวเอกของ DLC เนื้อเรื่องที่จะปล่อยออกมาหลังจากที่เกมวางจำหน่ายนั่นเอง! Watch Dogs: Legion มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 29 ตุลาคมนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC และจะมีสนับสนุนการเล่นบนคอนโซล PS5, Xbox Series X ด้วย
10 Sep 2020
Watch Dogs: Legion โชว์วิดีโอตัวอย่างใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย RTX !!
เทคโนโลยีด้านความชัดของภาพอย่าง Ray-tracing คงจะไม่เกิดขึ้นในอนาคตกับ Watch Dogs: Legion หากไม่มีการ์ดจอจากค่าย Nvidia ด้วยขุมพลังของ RTX ทำให้ภาพออกมาสมจริงได้อย่างที่ทีมพัฒนาเกมหวังจะให้เป็น !! หลังจากเราได้เห็นตัวอย่างของเกม Watch Dogs: Legion มามากมายแฟนๆ ต่างตื่นเต้นในเรื่องของภาพที่สมจริงไม่ว่าจะเป็น แอ่งน้ำหลังฝนตก หรือแม้แต่เส้นแสงในเกม ที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยม สภาพแวดล้อมต่างๆ ในเกมถือว่าดูสมจริงสุดๆ สามารถรับชมวิดีโอภาพสวยๆ ได้ที่ข้างล่างนี้เลย Watch Dogs: Legion จะพร้อมให้ทุกคนเข้าสู่นครลอนดอนในวันที่ 29 ตุลาคม ปี 2020 นี้บนเครื่อง Xbox One, PS4, Google Stadia และ PC สำหรับเครื่อง Xbox Series X กับ PS5 ต้องรอการประกาศรายละเอียดอีกครั้ง และจะสามารถเล่นตัวเกมที่ความละเอียดคมชัดสูงสุดที่ 4K ได้อีกด้วย Credit: Gamingbolt
02 Sep 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยเกมเพลย์ใหม่ออกมาให้แฟนๆ ได้ดูกันแล้ว!
อย่างที่เคยเห็นในเกมเพลย์ของ Watch Dogs: Legion เราจะเห็นได้ว่าเกมเพลย์และตัว NPC ของเกมนี้น่าสนใจและมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาก อีกทั้งในเกมเพลย์ล่าสุดที่ตัวเกมได้ปล่อยออกมานั้นพวกเขาได้มุ่งเน้นไปที่ภารกิจหนึ่งซึ่งมันมีความน่าสนใจมากครับ ครั้งนี้พวกเขามุ่งเน้นไปที่คนเลี้ยงผึ้งและภารกิจรับสมัครคนของเธอ คนเลี้ยงผึ้งนี้มีความสามารถพิเศษที่น่าสนใจมากเนื่องจากเธอสามารถยิงฝูงผึ้งนาโนเทคใส่ศัตรูได้ จากในภารกิจของเธอนั้นผู้เล่นจะได้รับมอบหมายให้ทำลายข้อมูลการวิจัยที่ Albion ขโมยไป ซึ่งคนผู้นี้คือตัวร้ายหลักของเกม Watch Dogs: Legion ครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายบน PlayStation 4, Xbox One, PC และ Google Stadia ในวันที่ 29 ตุลาคม ส่วนเวอร์ชั่น PlayStation 5 กับ Xbox Series X จะให้บริการในวันที่ตัวเครื่องวางจำหน่าย Credit: Gamingbolt
31 Aug 2020
Sony เผยดีไซน์กล่องเกมใหม่ของ Ubisoft สำหรับเวอร์ชั่น PS5
Amazon ได้สร้างรายการสำหรับเกมที่กำลังจะวางจำหน่ายบนเครื่อง PS5 และมันมีสามเกมใหญ่ที่มาจากค่าย Ubisoft อยู่ด้วย ที่สำคัญนี้คือครั้งแรกที่เราได้เห็นกล่องเกมเวอร์ชั่น PS5 ของทั้งสามเกมนี้อย่างเป็นทางการด้วยครับ ซึ่งทั้งสามเกมที่กล่าวถึงข้างต้นนั้นแน่นอนว่าต้องเป็น Assassins Creed Valhalla, Watch Dogs: Legion และ Far Cry 6 โดยทั้งสามเกมนี้ขายในราคา 59.99 ดอลลาร์ (1,870 บาท) แต่ที่น่าสนใจคือ Amazon ยังขายสามเกมนี้สำหรับเวอร์ชั่น PS4 ในราคาที่ถูกกว่าเวอร์ชั่น PS5 อีกด้วย โดยขายอยู่ที่ 49.94 ดอลลาร์ (1,550 บาท) ถ้าหากใครต้องการเล่นเกมเหล่านี้บนเครื่อง PS5 แต่อยากประหยัดก็สามารถซื้อเกมเวอร์ชั่น PS4 ได้ เพราะมันสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น PS5 ได้ฟรีนั่นเอง Watch Dogs: Legion วางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม ส่วนเกม Assassins Creed Valhalla วางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤศจิกายน นอกจากนี้ Far Cry 6 จะวางจำหน่ายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2021 โดยทั้งสามเกมนี้จะลงให้กับเครื่อง PS5, Xbox Series X, PS4, Xbox One, PC และ Google Stadia [gallery type="grid" columns="4" ids="64521,64522,64523"] Credit: Gamingbolt
17 Aug 2020
รวมรายชื่อ 5 เกมน่าเล่น ที่เตรียมวางจำหน่ายในปีนี้!
แปบเดียวก็ผ่านไปเกือบ 8 เดือนแล้วกับปี 2020 นี้ แต่ท่ามกลางปัญหามากมายที่ถาโถมเข้าใส่มนุษย์ทั่วโลกตลอดครึ่งปีแรกของปีนี้ ปี 2020 ก็เป็นปีที่เกมเมอร์อย่างเราได้มีโอกาสสัมผัสเกมอันยอดเยี่ยมไปแล้วมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Final Fantasy 7 Remake, The Last of Us Part II, หรือ Ghost of Tsushima ยิ่งเป็นปีที่เครื่องเกมคอนโซลเจนใหม่กำลังจะวางจำหน่ายแบบนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าหากว่าจะมีเกมอีกมากมายที่น่าสนใจ ออกตามมาอีกมากมายในช่วง 4 เดือนท้ายของปีนี้ เชื่อว่าหลายคนคงมีเกมที่ตัวเองอยากเล่นมากๆ อยู่ในดวงใจกันหมดแล้ว แต่บางครั้งการเฝ้ารออะไรบางอย่าง แบบใจจดใจจ่อ ก็อาจทำให้ลืมไปว่าปีนี้ยังมีเกมอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนนึกออกว่ายังมีเกมอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจ และกำลังจะออกในปีนี้ โดยผมได้รวบรวมเกมเด่นๆ 5 เกมในดวงใจของผม ที่เตรียมจะวางจำหน่ายในช่วงไม่กี่เดือนที่เหลืออยู่ของปีนี้ จะมีเกมอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยครับ! Cyberpunk 2077 ถ้าหากพูดถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่ตอนนี้กำลังมาแรงสุดๆ คงไม่ใช่เกมไหนนอกจาก Cyberpunk 2077 ผลงานการพัฒนาของค่าย CD Projekt Red ผู้สร้างชื่อเสียงโด่งดังมาแล้วใน The Witcher 3: Wild Hunt เนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึงโลกในยุคอนาคตที่เทคโนโลยีก่าวหน้าไปอย่างมาก มีรถบินบนท้องฟ้า ผู้คนดัดแปลงร่างกายตัวเองจนสามารถมีอายุได้เป็นร้อยปี แต่ความเป็นมนุษย์ของคนกลับน้อยลง ตัวเกมถูกดัดแปลงมาจาก "Cyberpunk 2013" บอร์ดเกมที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1988 ทำให้เกมนี้มีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ทางเรา GameFever ได้มีการทำบทสรุปเรื่องราวต่างๆ ของเกมนี้ไว้แล้ว สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ แตกต่างจากก่อนหน้านี้ เพราะ Cyberpunk 2077 จะใช้มุมมองในการเล่นแบบ FPS ทั้งเกม ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่เราเห็น CD Projekt Red สร้างเกมด้วยมุมกล้องแบบนี้ โดยทางผู้พัฒนาได้ออกมาเคลมว่า มุมมอง FPS จะทำให้เราเล่นเกมนี้ได้สนุกที่สุด นอกจากนี้ยังมีการยืนยันอีกด้วยว่าตัวเกมจะสามารถสำรวจในแนวดิ่งได้ด้วย มันหมายความว่าตึกทั้งหมดภายในเกม ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปสำรวจในแต่ละชั้นได้เลย นอกจากนี้ตัวเกมยังเปิดให้เราสามารถสร้างตัวละครได้อย่างอิสระ ถึงขนาดปรับแต่งอวัยวะของ ตัวละครได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ดูเหมือนว่าฉาก 18+ ในเกมก็ยังจะใช้มุมกล้องแบบ FPS ด้วย งานนี้ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ที่ไม่เคยพบในเกมไหนมาก่อนเลยก็เป็นได้ครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Path of Exile 2 ถ้าหากพูดถึงเกม Online แนว Hack and Slash ผสม Rogue-like ภาพของ Diablo คงจะขึ้นมาในหัวใครหลายคน แต่จริงๆ แล้วโลกนี้ยังมีอีกหนึ่งเกมที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ชื่อว่า Path of Exile จากทาง Grinding Gear Games ซึ่งในช่วงปลายปีที่แล้ว ได้มีการประกาศเปิดตัว Path of Exile 2 ที่มีการอัพเกรดคุณภาพของกราฟิกให้สวยงามกว่าเดิม พร้อมทั้งเพิ่มระบบใหม่ๆ อาชีพใหม่ๆ รวมถึงสกิลใหม่ๆ เข้ามาอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ผู้เขียนอยากสัมผัสมากๆ ของปีนี้เลยครับ Path of Exile เปิดให้เล่นครั้งแรกในปี 2013 แรกเริมเดิมที่เกมนี้ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากมายนัก แต่หลังจากที่ได้คุณ David Brevik หัวหน้าทีมพัฒนา Diablo 2 เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาในปี 2016 ตัวเกมก็เริ่มมีกลิ่นอายของ Diablo มากขึ้น และมีความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคอนเทนต์ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้เล่นทุก 13 อาทิตย์, ทั้งการปรับบาลานซ์จนทำให้ไม่มีอาชีพ หรือสกิลไหนโกงจนเกินไป ถ้าบอกว่า POE คือเกมแนว Hack and Slash ผสม Rogue-like ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกตอนนี้ คิดว่าคงไม่ใช้เรื่องที่เกินจริงเลยครับ ดังนั้นการมาของ Path of Exile 2 จึงเป็นอะไรที่ทำให้ ผู้เขียนรู้สึกตื่นเต้นมากครับ Path of Exile 2 จะเปิดช่วง Beta ให้เล่นช่วงปลายปีนี้ Assassins Creed Valhalla ภาคต่อของซีรีส์เกมนักฆ่าที่อยู่คู่วงการมาอย่างยาวนานอย่าง Assassins Creed กำลังจะกลับมาให้เราได้สัมผัสกันอีกครั้งช่วงปลายปีกับ Assassins Creed Valhalla ตัวเกมจะพาเราย้อนไปยุคของเหล่าไวกิ้ง โดยทางผู้พัฒนาเคยบอกว่าภาคนี้ จะเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างในเนื้อเรื่องของตัวเกมภาคเก่าๆ กับภาคใหม่ที่หายไปด้วย ล่าสุดในงาน Ubisoft Forward ก็มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ความย่าวกว่า 30 นาที ออกมาด้วย งานนี้บอกได้คำเดียวว่าแฟนๆ Assassins Creed ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ! ถึงแม้ว่าเกมภาคนี้จะยังใช้ระบบ RPG เหมือนกับ Origin และ Odyssey แต่ทางผู้พัฒนาได้ยืนยันว่า Assassins Creed Valhalla จะมีการนำระบบ "Instant-Kill Hidden Blade" ของภาคเก่าๆ กลับมาด้วย เรียกได้ว่าแฟนเกมยุคใหม่ หรือยุคเก่าก็น่าจะสามารถสนุกไปกับ Assassins Creed ภาคใหม่นี้ได้ครับ นอกจากนี้ด้วยความที่ผู้พัฒนาเคยบอกว่า เนื้อเรื่องของภาคนี้จะช่วยเชื่อมช่องว่างเนื้อเรื่องที่หายไปด้วยแล้ว มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นจุดเชื่อมโยงระหว่าง Layla Hassan ตัวเอกคนใหม่ที่มาแทนที่ Desmond Miles ที่ตายไปแล้วในภาคนี้ด้วยก็เป็นได้ คงต้องรอดูพร้อมกันปลายปีนี้ครับ Assassins Creed Valhalla จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X, และ PC Watch Dogs: Legion หลังจากที่ประกาศวางเลื่อนวันวางจำหน่ายไปในช่วงปลายปี 2019 ในที่สุด Watch Dog: Legion ก็ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในงาน Ubisoft Forward เนื้อเรื่องของภาคนี้จะกล่าวถึง เมืองลอนดอนที่กำลังจะถูกยึดไปโดยกลุ่มคนประสงค์ร้าย เราจึงจำเป็นต้องทวงเมืองนี้กลับคืนมา นอกจากนี้ทาง Ubisoft ประเทศไทย ได้มีการปล่อย Trailer ของเกมเวอร์ชั่นพากย์ไทยออกมาด้วย ทำให้เป็นไปได้ว่าในเกมนี้ เราอาจปรับเสียงตัวละครเป็นภาษาไทยได้ด้วยครับ ด้วยความที่เนื้อเรื่องของภาคนี้จะ กล่าวถึงการประท้วง และปฏิวัติ ทำให้เราสามารถนำ NPC เกือบทั้งหมดที่เดินอยู่ตามท้องถนน มาเป็นส่วนหนึ่งกับทีมปฏิวัติได้ คำว่าเอามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมในที่นี้ ไม่ได้หมายนถึงเอาเข้ามาเพื่อเพิ่มจำนวนให้ดูเยอะเฉยๆ แต่เราจะสามารถบังคับ NPC ตัวนั้นได้เลย แน่นอนว่าแต่ละตัวจะมีความสามารถแตกต่างกันไป บางตัวอาจแฮกโดรนได้, บางตัวอาจะยิงปืนเก่งมาก, หรือบางตัวอาจถนัดสู้ระยะประชิด ซึ่งมันทำเกมเพลย์ของภาค Leion ดูน่าสนใจมาก เพราะหมายความว่า แต่ละภารกิที่เราจะได้เล่นในเกมนี้ จะมีวิธีในการผ่านหลากหลายมาก จะบุคเข้าไปแบบตรงๆ หรือ อาจจะลักลอบเข้าไปแทน ก็สามารถทำได้ อยู่ที่ผู้เล่นเลยว่าอยากจะเล่นแบบไหนครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ครับ Mortal Shell ในปีนี้เราได้สัมผัสกับเกมแนว Dungeon Crawler สุดยากอย่าง Nioh 2 กันไปแล้ว ต้องบอกเลยว่าเกมนี้ ยากสมใจผู้เขียนเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่รู้ว่า Elden Ring เกมใหม่จากทาง FromSoftware จะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ แต่ปีนนี้ยังมีเกมแนวเดียวกันที่น่าสนใจจะวางจำหน่ายอยู่ด้วย ชื่อว่า Mortal Shell ครับ แม้ว่าตอนนี้จะยังมีข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้ไม่มากนัก แต่ก็มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ออกมาแล้ว ซึ่งดูน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ จุดที่น่าสนใจมากๆ ของ Mortal Shell เห็นจะเป็นในเรื่องของระบบเกมเพลย์ครับ โดยเฉพาะระบบที่เมื่อเลือดของเราหมดในเกมนี้ตัวละครของเราจะยังไม่ตาย หากแต่กระเด็นออกจากชุดเกราะเท่านั้น ผู้เล่นจะได้รับโอกาส ในการสู้เพื่อเอาตัวรอดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายจริงๆ และเหมือนว่าในร่างก่อนตายนั้น จะมีความสามารถพิเศษให้ใช้ได้ด้วย แบบนี้คิดว่าเวลาสู้กับบอสในเกมนี้จะต้องตื่นเต้นมากอย่างแน่นอน  อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคงจะเป็นในเรื่องของกราฟิกที่ดูสวยงามมากๆ และนี้คงเป็นเกมแนว Dungeon Crawler แบบยากมากเกมสุดท้ายของปีนี้แล้ว ดังนั้นผู้เขียนเลยรู้สึกตื่นเต้น บวกคาดหวังเป็นพิเศษครับ Mortal Shell จะวางจำหน่ายในเดือน กันยายน นี้บนเครื่อง PC เท่านั้น แน่นอนว่าเกมที่น่าสนใจไม่ได้มีแค่ 5 เกมข้างต้นเท่านั้น ยังมีเกมอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลย ไม่ว่าจะเป็น Godfall, Outriders, Yakuza: Like a Dragon, Marvels Avengers, Destiny 2: Beyond Light หรือ Halo Infinite ทาง GameFever มีกำหนดจะปล่อยรีวิวของหลายเกมที่มีชื่อในบทความนี้ด้วย แล้ว 5 ในดวงใจของเพื่อนมีอะไรบ้างคอมเม้นต์แชร์กันหน่อยครับ!
30 Jul 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่เปิดประสบการณ์การก่อกบฏ
จากที่เราได้ทราบข่าวของตัวเกมอย่าง Watch Dogs: Legion ที่จะวางจำหน่ายภายในปีนี้ พร้อมกับคำกล่าวของผู้พัฒนาที่จะมอบประสบการณ์สุดน่าตื่นเต้นในเมืองลอนดอนพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้ทุกตัวละคร โดยแต่ละตัวละครก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสาย ซึ่งตัวเกมได้เปิดเผยกลไกลที่น่าสนใจมากมายผ่านวิดีโอเทรลเลอร์ภายในงาน Xbox Games Showcase     สิ่งที่น่าสนใจภายในวิดีโอเทรลเลอร์เราได้เห็นสภาพของเมืองลอนดอนที่กลายเป็นหายนะสุดวุ่นวายจากการต่อต้านภายในเมือง รวมไปถึงโชว์ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของผู้คนในเมืองที่มีความสามารถแตกต่างกัน อย่างเช่น เหล่าแฮ็คเกอร์ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทคบวกด้วยความแฟนซีอีกหนึ่งอย่างที่เราได้เห็นในวิดีโอเทรลเลอร์นี้คือ รถของสายลับที่ไฟหน้ามีการแอบซ่อนมิสไซล์เอาไว้ และเรียกออกมาใช้ยิงได้ สามารถรับชมวิดีโอเทรลเลอร์ได้ที่ข้างล่างนี้     Watch Dogs: Legion จะพร้อมให้ทุกคนได้เข้าสู่เมืองแห่งการก่อกบฏในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One, PC และ Stadia สำหรับเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X คาดว่าจะมาในปีถัดไปเพื่อรอการพัฒนาตัวเกมไปก่อน       Credit: Gamingbolt 
24 Jul 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อยรายละเอียดตัว Special Edition ทั้งสามแบบ!
เกมระดับ AAA ทั้งหลายนั้นมักจะมาพร้อมกับ Special Edition มากมายอย่าง Limited Edition, Gold Edition เสมอ แน่นอนว่า Watch Dogs: Legion จาก Ubisoft ก็เป็นเช่นเดียวกันครับ ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Ubisoft ได้ประกาศรายละเอียดของเซต Edition ทั้งหลายที่กำลังจะมา ซึ่งนอกจากตัวเกมพื้นฐานแล้วยังมีตัวเลือกอีกสามแบบให้ผู้เล่นได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของกัน ในแต่ละ Edition จะมี Season Pass สำหรับตัวเกม โดยมันจะมีเนื้อหาใหม่ๆ เนื้อเรื่องเพิ่มเติม รวมถึงภารกิจพิเศษและตัวละครที่เล่นได้อีก 4 ตัว ยิ่งไปกว่านั้นตัว Season Pass ยังจะมอบ Watch Dogs ภาคแรกให้ฟรีอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดของตัว Gold, Ultimate และ Collectors Edition ได้จากภาพด้านล่างครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายให้กับ PS4, Xbox One, PC และ Google Stadia ในวันที่ 29 ตุลาคม โดยจะให้บริการบน PS5 และ Xbox Series X ในปลายปีนี้ พร้อมกับสามารถอัปเกรดเป็นรุ่นถัดไปได้ฟรี! [gallery columns="4" type="grid" ids="61160,61161,61162,61163"] Credit: Gamingbolt
14 Jul 2020
งาน Ubisoft Forward ครั้งที่สองจะจัดในปลายปีนี้!
บริษัทเกมต่างๆ อย่าง Sony, Microsoft และ EA ได้เปลี่ยนมานำเสนอเกมแบบออนไลน์แทนที่งาน E3 เนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 แน่นอนว่า Ubisoft ก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน โดยงานของเขามีชื่อว่า Ubisoft Forward ที่เพิ่งจบไปเมื่อคืนนี้ แต่ว่าในงาน Ubisoft Forward ที่จัดเมื่อคืนนั้นเราแทบไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ เท่าไหร่นัก เพราะงานนี้เน้นไปที่การโชว์เกมเพลย์ของ Assassin Creed Valhalla และเทรลเลอร์ของ Watch Dogs Legion ที่มาแสดงภาพภายในเกมและระบบการเล่นที่น่าสนใจ แต่นอกจากสองเกมนี้ที่ได้โชว์อย่างเต็มที่ เกมที่แฟนๆ รอคอยอย่าง Far Cry 6 กลับไม่ได้โชว์อะไรมากนัก งานก็ได้จบลงเสียก่อนและกลายเป็นการโชว์เจาะลึกเกมเพลย์ของ Valhalla แต่ก็ไม่ต้องเสียดายไปนักที่ไม่เราไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ มากกว่านั้น เพราะว่า Yves Guillemot ผู้บริหารของ Ubisoft ได้กล่าวว่างาน Ubisoft Forward ครั้งที่สองนั้นจะมีหลายๆ อย่างอีกมากมาย และจะนำเสนอข่าวเกมและการอัพเดท โดยงาน Ubisoft Forward จะจัดงานอีกครั้งในปลายปีนี้ Credit: Gamerant
13 Jul 2020
Watch Dogs Legion ปล่อย Cinematic พากย์ไทย !!
พึ่งประกาศวันวางจำหน่ายออกมาสดๆ ร้อนๆ ของเกม Watch Dogs Legion นั่นคือวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้ และล่าสุดทาง Ubisoft Thailand ทำการเอาใจแฟนๆ ชาวไทย ปล่อยตัวอย่าง Cinematic ชื่อว่า Tipping Point พร้อมทั้งยังใส่พากย์ไทยและตัวอักษรภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย (สามารถรับชมคลิปได้ทางด้านล่าง) โดยผลงานตัวอย่างนี้ เป็นฝีมือของคุณ Alberto Mielgo ผู้กำกับดีกรีรางวัลชนะเลิศงานเอ็มมี่ อวอร์ด ซึ่งตัวเขานั้นเคยฝากฝังผลงานซีรีส์แอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Love, Death & Robots ของทาง Netflix มาแล้ว Watch Dogs Legion จะเล่าเรื่องราวของประชาชนที่รวมตัวกันกลายเป็นผู้ปฏิวัติเพื่อต่อต้านเหล่าผู้มีอิทธิพลภายในเมือง London
12 Jul 2020
Watch Dogs: Legion ปล่อย Trailer ใหม่โชว์เกมเพลย์ และภาพสุดอลังการ!
เรียกได้ว่าหายกันไปนานเลยกับข่าว Watch Dogs: Legion ต้องขอบคุณงาน Ubisoft Foward ที่ทำให้เราได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับเกมนี้ ที่น่าใจก็คือในวิดีโอที่ปล่อยออกมาในไลฟ์สตรีมครั้งนี้ ยังโชว์ให้เราเห็น Footage รวมไปจนถึงเกมเพลย์ ของเกมนี้มากมายเลยด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ในวิดีโอที่ปล่อยออกมาได้บอกให้เรารู้ว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้จะเกิดขึ้นที่เมือง ลอนดอน รวมถึงมีการเปิดตัว Mary Kelly ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวร้ายสำคัญของภาคนี้ แต่ส่วนที่น่าสนใจคงไม่พ้นเกมเพลย์ของตัวละครต่างๆ ที่เราจะสามารถเล่นได้ในภาคนี้ ทั้งยังมีการโชว์ความสามารถของตัวละครดังกล่าวอีกด้วย เรียกได้ว่าใครรอเกมนี้อยู่ห้ามพลาดครับ Watch Dogs: Legion จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ครับ
12 Jul 2020
Ubisoft Forward เผยสิ่งที่จะนำมาโชว์ในงาน !! พร้อมประกาศแจก Watch Dogs 2 ฟรี!
งาน Ubisoft Forward ที่กำลังจะจัดขึ้นของ Ubisoft ในเช้าวันที่ 13 กรกฏาคม (หรือคืนวันที่ 12) นั้นได้ยืนยันเกมที่จะมีในงานแล้วจากทีเซอร์ที่ออกมา แต่ว่าตารางงานมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนั่นคือช่วง Pre-Show ได้ปรับเวลาลงมา 30 นาทีจาก 01:00 น. เป็น 00:30 น. รวมถึงเรายังสามารถรับเกม Watch Dog 2 ฟรีแบบถาวรอีกด้วย ซึ่งในช่วง Pre-Show นี้จะมีการเปิดเผยรายละเอียดคอนเทนต์ใหม่ๆ กับเกมที่เคยเปิดตัวไปแล้วอาทิเช่นคอนเทนต์ใหม่ของเกม Trackmania, ระบบ AI ของ Ghost Recon Breakpoint, เจาะลึกกับ Easter Egg ในเกม Division 2 และ Just Dance 2020 อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าเราจะได้เห็น Far Cry 6 ในรายการนี้ด้วยครับ! นอกจากนี้เวลา 02:00 น. ตัวงานจะเข้าสู่ช่วงรายการหลัก ที่ผู้พัฒนายืนยันแล้วว่าจะมีการโชว์ระบบของ Watch Dogs: Legion, รายละเอียดแบบเจาะลึกของเกม Assassins Creed Valhalla, โชว์เกม Hyper Scape และจัดการแข่งขัน รวมถึงอาจจะยังมี "เซอร์ไพรส์อื่นๆ" นอกจากนี้อีกก็เป็นได้ Credit: Gamingbolt
07 Jul 2020
Sony ประกาศเผยโฉมเกมสำหรับ PS5 สัปดาห์หน้า!
แม้จะยังไม่ใช่การเปิดตัวเครื่อง PlayStation 5 ตามที่หลายคนอาจจะอยากเห็นในขณะนี้ แต่ก็ใช่ว่าค่าย Sony จะไม่มีอะไรมาโชว์ซะทีเดียว เมื่อล่าสุดค่ายประกาศจะเผยโฉมเกมที่จะวางจำหน่ายสำหรับเครื่อง PS5 ผ่านไลฟ์สตรีมทาง Twitch และ Youtube เร็วๆ นี้ ตามที่เห็นในคลิป งาน The Future of Gaming จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ เวลา 3.00 น. (เวลาไทย) โดยในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีเกมอะไรมาเปิดตัวบ้าง แต่เชื่อได้ว่าน่าจะเป็น 38 เกมที่ถูกกล่าวถึงในนิตยสาร PlayStation Magazine ฉบับล่าสุดที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ สังเกติได้ว่าเกมทั้ง 38 เกมที่ถูกกล่าวถึงนั้น ไม่มีเกมที่เป็น Exclusive หรือเกมที่พัฒนาโดยค่าย 1st Party ของ Sony เลย เป็น แถมวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของนิตยสารยังเป็นวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่งอยู่ก่อนหน้าวันเปิดตัวเครื่อง PS5 ตามข่าวลือ 1 วันพอดี ซึ่งถ้าเป็นจริงตามนั้น ก็คงจะได้เห็นเกมเหล่านั้นในงานเปิดตัวพร้อมเครื่อง PS5 เลย ใน 38 เกมที่ว่ามามีเกมที่เป็นที่รอคอยของเกมเมอร์อย่าง Assassins Creed Valhalla, Dragon Age 4, Battlefield 6, และ Watch Dogs Legion อีกด้วย (รายชื่อดูจะไม่ได้รวมเกมบางเกมที่ยืนยันไปแล้วเช่น Cyberpunk 2077) ถือว่าเป็นไลฟ์สตรีมที่น่าจับตามองทีเดียว! สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
29 May 2020
Hero’s Journey : ‘ตัวเอก’ ของชิ้นงานสร้างสรรค์ที่ดี ที่เราอยากเชียร์
เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวที่ค่อนข้างชวนช็อคในแวดวงนักอ่านและนักเขียนพอสมควร เมื่อ คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือที่รู้จักกันในนามปากกา พนมเทียน’ เจ้าของผลงานนิยายผจญภัยอมตะของไทยอย่าง ‘เพชรพระอุมา’ และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2540 ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปีด้วยโรคหัวใจ ถือได้ว่าเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่แวดวงอย่างที่ไม่อาจประเมินค่าได้ [caption id="attachment_51861" align="aligncenter" width="1024"] คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ ครูพนมเทียน เจ้าของผลงานนวนิยาย เพชรพระอุมา ผู้ล่วงลับ[/caption] สำหรับผู้เขียน เพชรพระอุมา จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วย Shape เส้นทางงานตัวอักษรอยู่ไม่น้อย เพราะได้พาตัวเองไปร่วมท่องป่าล่องไพรไปกับจอมพรานอย่างรพินทร์ ไพรวัลย์และคณะ ก่อนที่จะเริ่มจับปากกาเขียนเรื่องราวของตัวเองอย่างจริงจัง แน่นอนว่าในความสมบูรณ์แบบของนวนิยายเรื่องนี้ตลอดทั้ง 48 เล่ม มันมีรูปแบบการดำเนินเนื้อหาในทฤษฎีหนึ่งอันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในทางวรรณกรรมวิจารณ์อย่าง ‘ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษ’ หรือ ‘Hero’s Journey’ ที่ถูกนำมาศึกษา และปรับใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสื่อแขนงต่างๆ และแน่นอน รวมถึงชิ้นงานอย่างวิดีโอเกมก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ถ้ากล่าวโดยสั้นๆ มันคือการศึกษารูปแบบและลักษณะของเรื่องราวปรัมปรา ว่าแม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมและโครงสร้างบางอย่างที่เหมือนกันที่สามารถจัดจำแนกเป็นหมวดหมู่ได้อย่างสรุปเป็นหัวข้อได้ทั้งหมด 8 หลักใหญ่ร่วมกัน (หรือซอยย่อยออกเป็น 17 หัวข้อหลัก) ตามแผนภาพที่นำเสนอด้านล่างนี้ การศึกษาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น เริ่มต้นขึ้นในปี 1871 โดย เอดเวิร์ด เบอร์เนตต์ ไทเลอร์ ที่ทำการสังเกตว่า เรื่องราวและตำนานต่างๆ ของโลกนั้น มีจุดร่วมกันบางอย่างที่มีแบบแผนและรูปแบบที่ตายตัว ก่อนที่นักวิชาการท่านอื่นๆ จะนำเอาทฤษฎีทางจิตวิเคราะห์ของทั้ง ซิกมันด์ ฟรอยด์ และคาร์ล ยุง เข้ามาใช้ร่วมกัน แต่คนที่นำเอาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษมาใช้อย่างจริงจังนั้น กลับเป็น โจเซฟ แคมป์เบิล ที่นำเอาแนวคิดดังกล่าวมาใช้อย่างจริงจังในหนังสือ ‘วีรบุรุษพันหน้า (The Hero with a Thousand Faces) และสรุปเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญได้ดังต่อไปนี้ วีรบุรุษออกจากโลกธรรมดาไปสู่ดินแดนที่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่นี้เขาจะได้พบกับสิ่งชักจูงที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ และจะได้รับชัยชนะ จากนั้นเขาจะกลับมาจากการผจญภัยอันลึกลับนี้พร้อมกับพลังที่สามารถช่วยผู้ชายคนอื่นได้ แน่นอนว่าทฤษฎีดังกล่าวนี้ แม้จะมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ไม่พ้นข้อครหาและเสียงวิพากษ์ว่า มันเป็นแนวคิดที่กว้างเกินกว่าที่จะใช้ประโยชน์ได้ในหลักการศึกษาปรัมปราวิทยาเปรียบเทียบ แต่เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มันเป็นเสาหลักหรือ Foundation ที่ดีเพียงพอสำหรับการบอกเล่าเรื่องราวในสื่อชนิดต่างๆ ตั้งแต่ตำนานการเดินทางของพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ บัญญัติสิบประการของโมเสส การเดินทางไปทำลายแหวนหนึ่งเดียวของโฟรโด้ใน The Lord of the Rings และรวมถึงการเขียนเรื่องราวในสื่อแขนงใหม่อย่างเช่นภาพยนตร์ และวิดีโอเกม สำหรับสื่อวิดีโอเกมที่เติบโตและต่อยอดมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นอีกหนึ่งสื่อบันเทิงแขนงหลักในรอบสี่ทศวรรษนั้น การพัฒนาการบอกเล่าเนื้อหาก็เป็นส่วนสำคัญที่ถูกให้ความใส่ใจ และการใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างความลื่นไหลในจังหวะการเล่น เพราะไม่ว่าจะเป็นการตามหาเจ้าหญิงพีชใน Super Mario Brothers, การผจญภัยข้ามยุคของภาคีมือสังหารในซีรีส์ Assassin’s Creed, การลุยฝ่าขุมนรกของ Doom Slayer ใน Doom Eternal, การผจญภัยของ Cloud Strife และผองเพื่อนใน Final Fantasy 7 Remake ไปจนถึงการเดินทางกอบกู้โลกหลังหายนะของ Aloy ใน Horizon Zero Dawn แต่สื่อวิดีโอเกมนั้นมีความพิเศษบางอย่างที่ทำให้ผู้สร้างต้องมีความใส่ใจกับการใช้งานทฤษฎีของวีรบุรุษที่มากกว่าสื่อบันเทิงชนิดอื่นๆ กล่าวคือ มันเป็นสื่อที่ ‘มีการตอบสนอง’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ กับผู้เสพรับอย่างตรงไปตรงมา มันคือการนำพาผู้เล่นไปสวมรับกับบทบาทและควบคุมทุกสิ่งที่เป็นไปผ่านหน้าจอในตลอดระยะเวลาหลักสิบจนถึงหลักร้อยชั่วโมง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเทียบกับสื่อที่มีธรรมชาติในการปฏิสัมพันธ์กับผู้เสพรับในทางเดียวอย่างเช่นภาพยนตร์ เพราะหน้าที่หลักของผู้สร้าง ไม่เพียงแต่จะต้องรังสรรค์โลกพื้นหลังของเกมให้มีความน่าเชื่อถือเป็น Context สำคัญ (ดังเช่นบทความชิ้นก่อนหน้านั้นที่ผู้เขียนได้ยกอ้างกล่าวถึงไปแล้ว) หากแต่ลำดับเรื่องราวและการเดินทางของตัวละครเอง ก็ต้องสมเหตุสมผลภายใต้ขอบเขตและเงื่อนไขที่กำหนด ไม่นับรวมกับ Content ที่จะต้องให้ความสนุกอย่างเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีส่วนร่วม และเชื่ออย่างสนิทใจว่า ตัวละครที่เขาจะได้ใช้เวลาร่วมกันนั้น เป็นเวลาคุณภาพที่คุ้มค่ามากพอจนกว่าจะถึงปลายทาง อนึ่ง การใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษในชิ้นงานวิดีโอเกม แม้จะเป็นเสาหลักสำคัญที่ผู้สร้างใช้ยึดโยงเอาไว้เป็นแก่นสำคัญ แต่ด้วยธรรมชาติของสื่อชนิดนี้เองนั้น เปิดทางให้กับการดัดแปลงและตีความได้อย่างหลากหลายสำหรับการบอกเล่าเนื้อหาและการใช้ทฤษฎีดังกล่าว เพราะมัน ‘อาจจะ’ ไม่จำเป็นว่าจะต้องจบลงด้วยความผาสุกแบบ Happy Ending เสมอไป การเรียนรู้และเหตุการณ์ของตัวละครอาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด การแตกสลาย และการ ‘กลายสภาพ’ ไปสู่ตัวตนใหม่ (ซึ่งก็ตรงกับหลักข้อสุดท้ายของทฤษฎี…) ดังเช่นผลงานเกมเดินหน้ายิงอย่าง Spec Ops: The Line ได้เลือกใช้ (เป็นหนึ่งในผลงานเกมเดินหน้ายิงที่แม้จะไม่โด่งดังมากนัก แต่ก็มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมที่ผู้เขียนขอแนะนำ…) และในทางหนึ่ง ในอนาคตข้างหน้า มันกำลังจะมีผลงานที่ท้าทายทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษอย่าง Watch Dogs : Legion ที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทตัวละครที่ ‘หลากหลาย’ ทั้งพื้นหลัง ความเป็นมา และคุณสมบัติ มันก็น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย ว่าทีมสร้างจะสามารถผูกเรื่องราวและใช้ทฤษฎีดังกล่าวอย่างไร ภายใต้สภาพแวดล้อมเปิด และการมีจุดร่วมอย่างกว้างๆ ไม่เจาะจงตายตัว ถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับผลงานชิ้นนี้ (ที่เราอาจจะต้องรอนานกว่าที่คิด จากแผนการเลื่อนการวางจำหน่ายเกมของ Ubisoft ที่ถูกผลักออกไปอย่างไม่มีกำหนด…) แต่ในท้ายที่สุดนี้ หากมองในโครงสร้างของทฤษฏีการเดินทางของวีรบุรุษที่ถูกใช้งานมาในตลอดระยะเวลาหลายสิบปีนั้น มันก็สะท้อนถึงความต้องการบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ในความปรารถนาที่จะเป็น ‘ใครสักคน’ ที่มีความสำคัญ ออกเดินทางในการผจญภัยอันไม่ธรรมดา และกลับมาพร้อมชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และสื่อวิดีโอเกม ก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดหลักนี้ให้เด่นชัดมากขึ้นโดยธรรมชาติของการปฏิสัมพันธ์และการตอบสนองของผู้เล่นที่มีต่อชิ้นงาน ที่สามารถควบคุม กระทำ และกำหนดทิศทางได้ด้วยตนเอง เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันอาจจะเป็นวงจรอันน่าเบื่อหน่ายของการใช้ชีวิตตามกำหนดและรูปแบบที่คุ้นเคยและชินชา โดยเฉพาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ที่วิกฤติโรคร้าย COVID-19 ทำให้ทุกอย่างถูกแช่แข็งและหยุดนิ่งไปโดยไม่รู้ว่าปลายทางจะไปจบลงที่ใด และเปลี่ยนโฉมหน้าของการเล่นเกมไปในทิศทางที่ไม่เคยมีมาก่อน… และการได้สวมบทบาทเป็นใครสักคน ไม่ว่าจะในรอยเท้าของรพินทร์ ไพรวัลย์กับคณะแห่งเพชรพระอุมา หรือวีรกรรมของ Big Boss (Punished Snake) ในซีรีส์ Metal Gear Solid ก็ตอบรับกับเสียงเรียกที่อยู่ภายในใจของเรา ที่ถูกปลูกฝังผ่านสื่อ เรื่องราว การบอกเล่า มาอย่างยาวนานตลอดช่วงระยะเวลาการเติบโตมาเป็นตัวตนในทุกวันนี้ และ ตัวเอกที่ดี ที่เรามีใจอยากเชียร์ ก็ถูกสะท้อนผ่านแนวคิดของทฤษฎีดังกล่าว ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เสมอมา... ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
27 Apr 2020
กระแสลบ Ghost Recon Breakpoint ทำพิษ! Ubisoft ประกาศเลื่อนเกมใหญ่พร้อมกัน 3 เกม
กลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับแฟนๆ เกมของผู้พัฒนา Ubisoft ซะแล้ว เมื่อล่าสุดค่ายได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายงานผลกำไรประจำปีว่าค่ายจะทำการเลื่อนวันวางจำหน่ายของเกมใหญ่ที่พัฒนาอยู่ถึง 3 เกมพร้อมกัน ประกอบไปด้วย Watch Dogs: Legion, Rainbow Six Quarantine, และ Gods & Monsters ออกไปยังปีธุรกิจ 2021 ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2020 แทน (เดิม Watch Dogs: Legion มีกำหนดวางจำหน่ายเดือนมีนาคม 2020) สำหรับเหตุผลในการเลื่อนครั้งนี้ ทาง CEO ของค่ายคุณ Yves Guillemot ได้เปิดเผยว่าส่วนหนึ่งมาจากผลตอบรับและยอดขายอันน่าผิดหวังของทั้งเกม Ghost Recon: Breakpoint ซึ่งส่งผลให้ค่ายทำการปรับเปลี่ยนระบบการพัฒนาเกมภายในใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ ค่ายยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเกม Ghost Recon: Breakpoint ให้ตอบสนองความคาดหวังของผู้เล่นมากกว่านี้ด้วย ส่งผลให้เกมที่พัฒนาอยู่ในขณะนี้ต้องล่าช้ามากขึ้นนั่นเอง เกม Ghost Recon: Breakpoint วางจำหน่ายไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเกมได้รับเสียงวิจารณ์ในเชิงลบมากมายจากสื่อแทบทุกสำนัก โดยข้อตำหนิส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับระบบเกมเพลย์ที่ขัดแย้งกันเองของเกม และความไม่เสถียรของตัวเกมเองที่ทำให้เกิดบั๊คต่างๆ มากมายด้วย (อ่านรีวิวของ GameFever ที่นี่) แหล่งข่าว: PCGamesN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
25 Oct 2019
Watch Dogs : Legion เผยระบบแฮกกิ้งและแมคคานิคต่างๆในเกม
Watch Dogs : Legion ซีรีส์เเกม RPG เกี่ยวกับการแฮกกิ้วชื่อดัง ที่กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020  ภาคนี้ก็ได้มีการพัฒนาในเรื่องระบบ แฮกกิ้ง ซึ่งเป็นระบบหลักของเกมเพลย์ในเกมซีรีส์นี้ไปอีกขั้นหนึ่ง ต้องบอกก่อนว่าในภาคก่อนอย่าง Watch Dog 2 ตัวเกมเพลย์ก็ทำออกมาได้ดีมากๆแล้ว แต่ดูเหมือนภาคที่กำลังจะมาถึงนี้จะยังพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก Josh Cook Art Director ได้กล่าวว่า "Watch Dog Legion คือที่สุดของการรวมไอเดียต่างๆของทุกสิ่งที่เราได้ทำมาในภาคก่อนๆ ภาคนี้คุณสามารถ Hack เข้าดู Profile ของตัวละครอื่น ดูข้อความบนระบบ Social และพยามใช้ข้อมูลที่มีไปควบคุมหรือกำหนดฝูงชนเพื่อดำเนินเกม มันเป็นมากกว่าการนั่งจิ่มคอมพิวเตอร์แล้วสำหรับการแฮกกิ้งในเกมภาคนี้" ใครที่เป็นแฟนซีรีส์นี้ห้ามพลาดแล้วหละครับ Credit : Gamingbolt( https://gamingbolt.com/watch-dogs-legion-hacking-social-engineering-detailed  ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
03 Sep 2019
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Watch Dogs Legion เผยเกี่ยวกับความคืบหน้าของตัวละครและ DedSec
จากการสัมภาษณ์กับ Clint Hocking ผู้เป็น Creative Director ของเกม Watch Dogs Legion เกี่ยวกับระบบความคืบหน้าของตัวละครและ DedSec ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อถาม Hocking ว่าตัวละครทุกตัวที่เราช่วยเหลือสามารถอัพเกรดได้หรือไม่ คำตอบนั่นคือ “ได้อย่างได้แน่นอน” เขาตอบ “ทุกตัวละครสามารถถูกเทรนเป็น 1 จาก 3 คลาสได้หลังจากเข้าร่วม DedSec และทุกคนมีความคืบหน้าเป็นของตัวเอง พวกเขาสามารถเลเวลอัพและเพิ่มความสามารถได้ โดยความคืบหน้าได้จากการเล่นเป็นตัวละครออกไปทำเนื้อเรื่องหรือภารกิจนั่นเอง” “ในขณะเดียวกัน DedSec ก็มีความคืบหน้าเป็นของตัวเอง ตัวละครจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อกลุ่ม DedSec ได้พัฒนา หากสูญเสียตัวละครไปจะเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพและลดความคืบหน้าของกลุ่มไป ทำให้เราอาจเก่งสู้ศัตรูไม่ได้” Watch Dogs Legion วางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020 บน Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia อ้างอิง: gamingbolt
29 Jul 2019
สรุปเนื้อเรื่อง: Watch Dogs แฮกเกอร์ศาลเตี้ยผู้มีสมาร์ทโฟนเป็นอาวุธ (Part 2)
ปัจจุบันเกม Watch Dogs ที่ให้เรารับบทเป็นแฮกเกอร์ผู้ตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ยผดุงความยุติธรรม เปิดโปงองค์กรชั่วร้าย หยุดยั้งสิ่งต่างๆ ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ตัวเกมมีภาค 1, 2 และได้ดำเนินมาถึงภาค 3 หรือ Watch Dogs Legion นี้แล้ว โดยภาคนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020 บน Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia ทางเรา GameFever จึงอยากพาคุณกลับไปอ่านเรื่องราวที่ผ่านมาของ Watch Dogs ภาค 1 และภาค 2 ว่าพวกเขาเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน ตามกันต่อที่สรุปเนื้อเรื่องภาค 2 กันเลย สำหรับ Part 1 กดตามไปอ่านได้ที่นี่ ในภาคนี้เริ่มหลังจากเหตุการณ์ที่ชิคาโกใน 3 ปีให้หลัง, ซาน ฟรานซิสโกเป็นเมืองถัดไปที่มีระบบ ctOS ทว่าแฮกเกอร์หนุ่ม Marcus Holloway มีคดีความที่ตัวเองไม่ได้ทำติดตัว นั่นทำให้เขารู้ว่า ctOS กำลังทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยการป้ายความผิดที่พวกเขาไม่ได้ก่อ เขาจึงได้พยายามเข้าร่วมสมาคมแฮกเกอร์ DedSec เพื่อโค่น Blume ลงซะ โดยสิ่งแรกที่ Marcus ต้องทำคือเข้าไปลบข้อมูลตัวเองใน ctOS โดยมีเพื่อนของเขา Retr0 คอยช่วยเหลือ เขาก็ทำสำเร็จและเข้าสมาคมแฮกเกอร์ DedSec อย่างเป็นทางการ Marcus ได้ร่วมมือกับ Sitara, Wrench, Horatio และ Josh เริ่มหายอดผู้ติดตามเพิ่มเพื่อให้ประชาชนอยู่ข้างเรา สนับสนุนการทำงานของเรา เพื่อให้ง่ายต่อการต่อสู้กับองค์กรทุจริต ต่อมา Marcus ได้รู้ว่าโบสถ์ New Dawn ขู่ฟ้องร้อง DedSec จึงจะแฮกเข้าไปเอาข้อมูลของ New Dawn ออกมาแฉ พวกเขาจึงประกาศเรื่องนี้ผ่านโซเชียลมีเดียกับเหล่าประชาชนให้ลุกฮือขึ้นประท้วง พวกเขาได้ออกมาแฉความจริงของ New Dawn ว่าเป็นพวกลวงโลก ค้าข้อมูลลับไว้เพื่อใช้แบล็คเมล์คนให้เข้าร่วมสมาคม พวกเขาพบโดยบังเอิญเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าระบบ Bellwether โดย Dušan Nemec และ Blume ได้ร่วมมือกันเพื่อแชร์ข้อมูลประชาชนอย่างผิดกฎหมาย เพื่อให้มีอำนาจในการควบคุมการเงินและการเมืองของโลก สมาคมแฮกเกอร์ DedSec ได้ Raymond Kenney หรือ T-Bone มาช่วยเหลือ เขาคือผู้ที่มุ่งมั่นอยากต่อสู้กับ Blume มาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วในชิคาโก หรือก็คือเหตุการณ์ในภาคแรกนั่นเอง แต่เรื่องร้ายๆก็เกิดขึ้น Horatio โดนลักพาตัวไปโดยกลุ่มอันธพาล Tezcas และบีบให้เขามาร่วมงานด้วย Horatio ปฏิเสธและนั่นทำให้เขาถึงแก่ความตาย และนั่นทำให้ Marcus รู้สึกว่า เขาต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ จากความช่วยเหลือของ T-Bone ได้รู้ถึงการคอรัปชั่นของ FBI และองค์กรใน Silicon Valley จากการแฮกเข้าไปในเครือข่ายของพวกเขา จึงได้รู้ว่าพวกเขาจะส่งดาวเทียมของ Blume ออกสู่อวกาศเพื่อเข้าถึงสายเคเบิ้ลใต้ทะเล ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาเข้าถึงเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ของโลกได้ทั้งใบ พวกเขาไม่อาจอยู่นิ่งเฉย Marcus จึงแทรกซึมเข้าไปเขตปล่อยดาวเทียมและติดตั้งโปรแกรงขัดขวางการกระทำดังกล่าวก่อนดาวเทียมอีกตัวจะถูกปล่อย เพื่อจัดการให้ถึงรากถึงโคน, Marcus บุกเข้าสำนักงานใหญ่ของ Blume เพื่อแฮกเซิฟเวอร์และเปิดโปงเรื่องทั้งหมด รวมถึง Bellwether ด้วย ส่งผลให้ Nemec ถูกจับกุม และ Blume เข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป จบเรื่องราวในภาค 2 ไว้เพียงเท่านี้
14 Jun 2019
สรุปเนื้อเรื่อง: Watch Dogs แฮกเกอร์ศาลเตี้ยผู้มีสมาร์ทโฟนเป็นอาวุธ (Part 1)
ปัจจุบันเกม Watch Dogs ที่ให้เรารับบทเป็นแฮกเกอร์ผู้ตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ยผดุงความยุติธรรม เปิดโปงองค์กรชั่วร้าย หยุดยั้งสิ่งต่างๆ ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ตัวเกมมีภาค 1, 2 และได้ดำเนินมาถึงภาค 3 หรือ Watch Dogs Legion นี้แล้ว โดยภาคนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 มีนาคม 2020 บน Xbox One, PS4, PC และ Google Stadia ทางเรา GameFever จึงอยากพาคุณกลับไปอ่านเรื่องราวที่ผ่านมาของ Watch Dogs ภาค 1 และภาค 2 ว่าพวกเขาเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน เริ่มกันที่สรุปเนื้อเรื่อง Watch Dogs 1 กันเลย จุดเริ่มต้น ตุลาคม 2012, แฮกเกอร์นามว่า Aiden Pearce และชายผู้เป็นอาจารย์และคู่หูของเขา Damien Brenks เข้าปล้นธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ที่ Merlaut Hotel โรงแรมหรูที่ชิคาโก ทว่าสัญญาณเตือนภัยได้ดังขึ้นโดยแฮกเกอร์ปริศนา Damien พยายามแกะรอยแต่ว่าพวกเขาต้องหนีออกไป สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ Aiden เกรงกลัวถึงอันตรายที่จะมาถึงครอบครัวเขา ในขณะที่กำลังขับรถหนีไปที่ปลอดภัย มือปืน Maurice Vega ไล่ยิงพวกเขาจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ Lena หลาวสาวของเขาตกอยู่ในอาการโคม่าและเสียชีวิตลงในที่สุด 11 เดือนต่อมา, Aiden แกะรอย Vega จนพบกันที่สนามเบสบอลแห่งหนึ่งใน Chicago และเค้นข้อมูลคนที่ว่าจ้างเขา แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคู่หูเขา Jordi Chin แล้วหลบหนีออกมาด้วยระบบ ctOS Central Operating System Central Operating System หรือ ctOS เป็นระบบขององค์กร Blume ที่เชื่อมต่อเครือข่างทั้งหมดเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล กล้องวงจรปิด ไฟจราจร สามารถเข้าถึงการคมนาคมทุกอย่าง การสื่อสาร หรือแม้แต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคในบ้านเรือน เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ ระบบนี้เองทำให้ชิคาโกกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ไฮเทคที่สุดในโลก ต่อมาเขาได้พบกับ Damien ที่เขาไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ภารกิจที่โรงแรม Merlaut ซึ่ง Damien มาเพื่อขอให้เขาตามหาแฮกเกอร์คนนั้นที่ทำแผนเสียตอนภารกิจที่โรงแรม Merlaut ซึ่งเขาปฏิเสธ ต่อมา Damien ได้จับ Nicole น้องสาวเขาเป็นตัวประกัน ทำให้ Aiden ต้องยอมทำทุกอย่างที่สั่ง เพื่อไม่ให้น้องสาวและหลานชายของเขา Jackson ต้องตกอยู่ในอันตรายไปมากกว่านี้ จากการช่วยเหลือจาก Clara Lille หนึ่งในสมาชิกสมาคมแฮกเกอร์ DedSec ทำให้ Aiden สามารถแกะรอยจนพบกับ Delford Wade หรือ Iraq ผู้เป็นอดีตทหารและหัวหน้าแก๊ง Black Viceroys รวมถึงลอบเข้าไปเอาข้อมูลจากเซิฟเวอร์ของเขา ข้อมูลที่เขาเก็บไว้คือข้อมูลของทุกคนในเมืองชิคาโก และใช้มันเพื่อปกป้องกลุ่มของพวกเขา เพราะสามารถเอาข้อมูลข่าวฉาวพวกนี้เป็นข้อต่อรองได้ สามารถขู่ว่าหากไม่ทำตามจะเอาไปเผยแพร่จนทำให้เกิดความเสื่อมเสีย พวกเขามีข้อมูลที่แกะรหัสยากเกินกว่าที่ Clara จะทำได้ เธอเลยบอกให้เขาตามหา Raymond Kenney หรือ T-Bone เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อเขาทำงานต่างๆตามที่ T-Bone ร้องขอจนเสร็จ T-Bone จึงตกลงแกะรหัสข้อมูลให้ Aiden บุกเข้าไปที่ฐานของ Iraq และดาวน์โหลดข้อมูลจากเซิฟเวอร์และเกิดการปะทะกันระหว่างเขากับ Iraq จนสุดท้าย Aiden ก็สังหาร Iraq แล้วจากไป แฮกเกอร์อีกคน JB Markowicz หรือ Defalt บุกเข้าเซิฟเวอร์ของ Aiden โขมยข้อมูลและลบข้อมูลทั้งหมดทิ้ง พร้อมปล่อยไฟล์เสียงที่บ่งบอกว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องภารกิจที่โรงแรม Merlaut นั่นทำให้ Aiden โกรธมากเพราะเธอถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลานสาวเขาเสียชีวิต และเขาได้ไล่เธอไป ต่อมา Aiden และ Damien ได้เจอกันซึ่งเขามามือเปล่า Damien จึงเผยแพร่ข้อมูลการก่ออาชญากรรมของ Aiden ไปทั่วจนทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก Aiden ได้แกะรอยร่วมกับ T-Bone เพื่อตามหา Defalt และเอาข้อมูลทั้งหมดกลับคืนมา หลังจากนั้น T-Bone แกะรอยจนพบที่อยู่ของน้องสาวเขา เขาไปช่วยน้องสาวและพาหลานชายหนีไปให้ไกลเพื่อความปลอดภัยของทั้งสอง T-Bone แกะรอยต่อจนพบ Dermot Quinn หรือ Lucky ผู้เป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียไอริชที่เป็นเจ้าของโรงแรม Merlaut และเขาก็รู้ว่า Aiden เป็นใคร เขาบอกว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่า Aiden เมื่อตอนนั้นจะเข้ามาเอาวิดีโอการฆาตกรรมลับของนายก Rushmore Donovan เขาเลยต้องสั่งเก็บ Aiden ในระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น Aiden ได้แฮกและปิดการทำงานของหัวใจเทียมที่ Quinn เพิ่งผ่าตัดมา และสุดท้ายเขาก็ตายลงในที่สุด ความสูญเสีย ต่อมา Aiden ได้เร่งออกตามหา Clara เพราะเธอก็ถูก Quinn สั่งเก็บด้วยเนื่องจากช่วงหลังที่เธอล่นตุกติกไม่ทำงานให้ จึงคิดว่าเธออาจเอาเรื่องนี้ไปเปิดโปง แต่ทว่าเขามาสายเกินไป เธอถูกลอบสังหารต่อหน้าต่อตาเขา ข้อความเสียงสุดท้ายในโทรศัพท์เธอเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจต่อเขาที่เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้คนในครอบครัวเขาต้องตาย เธอจึงพยายามช่วยเหลือเขาสุดตัวด้วยความรู้สึกผิดตลอดมา หลังจากเขาแจ้งข่าวการตายของ Clara กับ T-Bone เสร็จ พวกเขาได้ปล่อยวิดีโอการฆาตกรรมลับของนายก Rushmore Donovan เผยแพร่สู่สาธารณะ ไม่นานนัก Damien โทรมาต่อว่าสิ่งที่เขาทำซึ่ง Aiden ไม่สนใจ Damien จึงบอกว่าเขาปลดล็อคระบบ ctOS ได้แล้วและตอนนี้เขากำลังจะควบคุมได้ทุกอย่าง ได้ยินดังนั้น Aiden จึงอัพโหลดไวรัสเข้าไปเพื่อสั่งปิดระบบทั้งหมดส่งผลให้ไฟดับทั้งเมือง ทำให้ Damien ใช้งาน ctOS ไม่ได้ Aiden รีบไปหา Damien ที่ประภาคารต่อเพื่อขัดขวาง ที่นั่นเขาพบ Chin อดีตคู่หูที่ร่วมมือกับ Damien เพื่อกำจัดเขา แต่ Aiden ก็สามารถผลัก Chin ร่วงลงจากประภาคาร และจัดการสังหาร Damien ลงได้ทั้งสำเร็จ จากข่าวก่อนหน้าที่ Aiden เผยแพร่ออกไป มีประกาศข่าวว่านายก Rushmore Donovan ฆ่าตัวตายและ Dermot Quinn ที่หัวใจวายตาย รวมถึงองค์กร Blume ประกาศออก csOS 2.0 เพื่อรับผิดชอบที่ระบบ ctOS ล่มจนไฟดับทั่วทั้งเมือง หลายวันต่อมา Chin ที่รอดตายติดต่อหา Aiden เพื่อปรองดองกันอีกครั้ง จากนั้น Aiden มาหา Chin ตามนัดพร้อมปืนพกที่มีกระสุนเต็มแม็ก พร้อมเปิดให้ผู้เล่นเลือกว่าจะเดินหนีหรือว่าเป่าหัวเขาซะ สำหรับบทความเนื้อเรื่อง Watch Dogs ภาค 2 ตามไปดูได้ที่นี่
14 Jun 2019